วัดสวนดอก (จังหวัดเชียงใหม่)
วัดสวนดอก | |
---|---|
พระเจดีย์วัดสวนดอก | |
ชื่อสามัญ | วัดสวนดอก |
ที่ตั้ง | ถนนสุเทพ ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ 50200 |
ประเภท | พระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ |
นิกาย | เถรวาท |
เจ้าอาวาส | พระราชรัชมุนี (นิมิต สิขรสุวณฺโณ) |
สถานีย่อยพระพุทธศาสนา |
วัดสวนดอก (ไทยถิ่นเหนือ: ) หรือ วัดบุปผาราม เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ[1] สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ตั้งอยู่บนถนนสุเทพ ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ปัจจุบันมีพระราชรัชมุนี เป็นเจ้าอาวาส
ที่ตั้งและอาณาเขต
[แก้]วัดสวนดอกตั้งอยู่ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ เลขที่ 139 ถนนสุเทพ ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ห่างจากประตูสวนดอกไปทางทิศตะวันตก 1 กิโลเมตร กินเนื้อที่ 35 ไร่ 2 งาน 44 ตารางวา ทิศเหนือยาว 183 เมตร ทิศใต้ยาว 193 เมตร ทิศตะวันออกยาว 176 เมตร และทิศตะวันตกยาว 176 เมตร
ประวัติ
[แก้]วัดสวนดอกสร้างขึ้นในภายในเวียงสวนดอก ซึ่งเป็นเขตพระราชอุทยานในสมัยราชวงศ์มังราย โดยในปี พ.ศ. 1914 (ศักราชนี้ถือตามหนังสือชินกาลมาลีปกรณ์ของพระรัตนปัญญาเถระ) พญากือนา กษัตริย์องค์ที่ 6 แห่ง ราชวงศ์มังราย ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเป็นพระอารามหลวง เพื่อให้เป็นที่จำพรรษาของ "พระสุมนเถระ" ผู้ประดิษฐานพระพุทธศาสนาลัทธิลังกาวงศ์ ในแผ่นดินล้านนา และสร้างองค์พระเจดีย์เพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ 1 ใน 2 องค์ ที่พระสุมนเถระอัญเชิญมาจากสุโขทัย ในปี พ.ศ. 1912 (องค์หนึ่งประดิษฐานอยู่ในพระเจดีย์ในวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร)
ในสมัยราชวงศ์มังราย วัดสวนดอกเจริญรุ่งเรืองมาก แต่หลังจากสิ้นราชวงศ์มังราย บ้านเมืองตกอยู่ในอำนาจพม่า ทั้งเกิดจลาจลวุ่นวาย วัดนี้จึงกลายสภาพเป็นวัดร้างไป จนได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่อีกครั้ง ในรัชสมัยพระเจ้ากาวิละแห่งราชวงศ์ทิพย์จักร และได้รับการทำนุบำรุงจากเจ้านายฝ่ายเหนือ และประชาชนเชียงใหม่มาโดยตลอด
วัดสวนดอก ได้รับการบูรณะครั้งสำคัญ 2 ครั้ง ครั้งแรกในปี พ.ศ. 2450 เจ้าดารารัศมี พระราชชายาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญรวบรวมพระอัฐิ เจ้านครเชียงใหม่และพระประยูรญาติมาประดิษฐานรวมกัน และต่อมาอีกครั้งหนึ่งในปี พ.ศ. 2475 เป็นการบูรณปฏิสังขรณ์องค์พระวิหารโดยครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา
ปูชนียสถาน-วัตถุ
[แก้]พระเจดีย์ใหญ่ทรงลังกา
[แก้]พระเจดีย์ใหญ่ทรงลังกาบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 1914 ในรัชกาลพญากือนา แต่เดิมมีเจดีย์แบบสุโขทัย (ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์) อยู่ทางทิศตะวันตกขององค์พระเจดีย์ใหญ่ แต่ได้ปรักหักพังลง พระเจดีย์องค์ใหญ่สูง 24 วา ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานแห่งชาติในราชกิจจานุเบกษาเล่มที่ 52 ตอนที่ 75 ลงวันที่ 8 มีนาคม 2478
พระเจ้าเก้าตื้อ
[แก้]พระเจ้าเก้าตื้อ เป็นพระพุทธรูปหล่อองค์ใหญ่ สร้างด้วยโลหะหนัก 9 โกฏิตำลึง ("ตื้อ" เป็นคำในภาษาไทยเหนือ แปลว่า หนักพันชั่ง) พญาแก้ว กษัตริย์องค์ที่ 13 แห่งราชวงศ์มังราย โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2047 เป็นพระพุทธรูปแบบเชียงแสนฝีมือช่างล้านนาและสุโขทัย หน้าตักกว้าง 8 ศอก หรือ 3 เมตร สูง 4.70 เมตร เพื่อเป็นพระองค์ประธานในวัดพระสิงห์ แต่เนื่องมีน้ำหนักมากไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ จึงได้ถวายเรือนหลวงของพระองค์เป็นพระวิหาร พระราชทานชื่อว่า "วัดเก้าตื้อ" แทน ซึ่งต่อมาภายหลังได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์ในสมัยครูบาเจ้าศรีวิชัยในปี พ.ศ. 2475 กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานแห่งชาติ ในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 52 ตอนที่ 75 ลงวันที่ 8 มีนาคม 2478
พระเจ้าค่าคิง
[แก้]พระเจ้าค่าคิง (เท่าพระวรกาย) เป็นพระประธานในพระวิหารหลวง สร้างในสมัยพญากือนา พ.ศ. 1916 หล่อด้วยทองสำริด ขนาดเท่าพระวรกายของพญากือนา หน้าตักกว้างสองเมตร สูงสองเมตรครึ่ง เรียกชื่อตามภาษาถิ่นล้านนาว่า “พระเจ้าค่าคิง”
กู่เจ้านายฝ่ายเหนือ
[แก้]กู่เจ้านายฝ่ายเหนือ สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2450 โดยพระดำริในเจ้าดารารัศมี พระราชชายาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เจ้านายฝ่ายเหนือในราชตระกูล ณ เชียงใหม่ ปัจจุบันได้ถูกจดทะเบียนให้เป็นโบราณสถานสำคัญ ภายใต้การกำกับดูแลของกรมศิลปากร ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานแห่งชาติ ในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 52 ตอนที่ 75 ลงวันที่ 8 มีนาคม 2478
ธรรมาสน์เทศนา
[แก้]ธรรมาสน์เทศนาแบบล้านนา สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2474 และซุ้มประตูวัด จำนวน 3 ซุ้ม เป็นซุ้มประสาทแบบล้านนาขนาดใหญ่ สร้างขึ้นเมื่อครูบาศรีวิชัยบูรณะวัดสวนดอกเมื่อ พ.ศ. 2474
-
พระประธานในพระวิหาร
-
พระยืนในพระวิหารวัดสวนดอก
-
พระอุโบสถวัดสวนดอก
-
ประตูทางเข้าเก่า
การประกาศขึ้นทะเบียนโบราณสถาน
[แก้]วัดสวนดอก ได้รับการประกาศเป็นโบราณสถานสำหรับชาติ ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 52 หน้า 6842 วันที่ 8 มีนาคม 2478 พร้อมกับวัดอีกหลายแห่งในจังหวัดเชียงใหม่ [2]
ประเพณีประจำปีของวัดสวนดอก
[แก้]- ประเพณีทำบุญสลากภัต ตรงกับวันขึ้น 8 ค่ำ เดือนเกี๋ยงเหนือเดือน 11
- ประเพณีตั้งธรรมหลวง หรือฟังเทศน์มหาชาติ หลังออกพรรษาแล้วทุกปี
- ประเพณีทำบุญสรงน้ำพระบรมธาตุ ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 เหนือทุกปี
การจัดสร้างเมรุชั่วคราว
[แก้]วัดสวนดอก เป็นสถานที่ตั้งของกู่เจ้านายฝ่ายเหนือ จึงถูกกำหนดให้เป็นสถานที่ในการจัดสร้างเมรุชั่วคราว สำหรับการพระราชทานเพลิงศพเจ้านายฝ่ายเหนือหลายพระองค์ ได้แก่
- เจ้าดารารัศมี พระราชชายา เมื่อวันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2477[3]
- เจ้าฟ้าสิริสุวรรณราชยสสรพรหมลือ เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2498
- เจ้าราชบุตร (วงศ์ตวัน ณ เชียงใหม่) เมื่อวันที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2516[4]
- เจ้าทิพวรรณ ณ เชียงตุง เมื่อวันที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2533
- หม่อมศรีนวล ณ เชียงใหม่ และเจ้าพงศ์แก้ว ณ ลำพูน เมื่อวันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2535[5]
- เจ้าไชยสุริวงศ์ ณ เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2547[6]
- คุณหญิง เจ้าระวีพันธุ์ สุจริตกุล เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2558[7]
- เจ้าดวงเดือน ณ เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566
อ้างอิง
[แก้]- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง ยกวัดราษฎร์เป็นพระอารามหลวงวัดสวนดอก, เล่ม ๑๐๗, ตอน ๑๕๐ ง, ๒๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๓๓, หน้า ๖๘๔๒
- ↑ ประกาศกรมศิลปากร กำหนดจำนวนโบราณสถานสำหรับชาติ
- ↑ หมายกำหนดการ ที่ ๒/๒๔๗๗ เรื่อง พระราชทานเพลิงพระศพ เจ้าดารารัศมี พระราชชายา ณ พระเมรุวัดสวนดอก นครเชียงใหม่ เมษายน พุทธศักราช ๒๔๗๗ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๕๑ ตอนที่ ๐ง วันที่ ๑๕ เมษายน ๒๓฿฿ หน้า ๑๔๕
- ↑ ประชุมพงศาวดาร ภาคที่ 61. [ม.ป.ท.] : โรงพิม์ชวนพิมพ์, 2516. 260 หน้า. [พิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ พลตรี เจ้าราชบุตร (วงศ์ตวัน ณ เชียงใหม่) ณ เมรุวัดสวนดอก จังหวัด เชียงใหม่ วันที่ 12 มกราคม พุทธศักราช 2516]
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ข่าวในพระราชสำนัก (วันที่ ๑๓, ๑๕ - ๑๙ มกราคม ๒๕๓๕) เล่ม 109 ตอนที่ 14ง วันที่ 23 มกราคม 2535
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ข่าวในพระราชสำนัก (วันอังคารที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๔๗) เล่ม 122 ตอนที่ 7ข วันที่ 31 สิงหาคม 2547
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ข่าวในพระราชสำนัก (๑ มกราคม - ๓๑ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๘) เล่ม 133 ตอนที่ 16ข หน้า 343 วันที่ 15 มิถุนายน 2559
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- แผนที่และภาพถ่ายทางอากาศของ วัดสวนดอก (จังหวัดเชียงใหม่)
- ภาพถ่ายดาวเทียมจากวิกิแมเปีย หรือกูเกิลแมปส์
- แผนที่จากลองดูแมป หรือเฮียวีโก
- ภาพถ่ายทางอากาศจากเทอร์ราเซิร์ฟเวอร์