บีเอ็มดับเบิลยู 1 ซีรีส์
บีเอ็มดับเบิลยู 1 ซีรีส์ | |
---|---|
ภาพรวม | |
บริษัทผู้ผลิต | บีเอ็มดับเบิลยู |
เริ่มผลิตเมื่อ | พ.ศ. 2547 – ปัจจุบัน |
ตัวถังและช่วงล่าง | |
ประเภท | รถยนต์นั่งขนาดเล็ก / Subcompact executive (C) |
รูปแบบตัวถัง | 5 ประตู รถเก๋ง 5 ประตู แฮทช์แบ็ก 3 ประตู แฮทช์แบ็ก 2 ประตู คูเป้ 3 ประตู รถเปิดประทุน |
โครงสร้าง | FR layout (E87/F20) FF layout (F40) F4 layout |
ระยะเหตุการณ์ | |
รุ่นก่อนหน้า | บีเอ็มดับเบิลยู 3 ซีรีส์ คอมแพกต์ |
รุ่นต่อไป | บีเอ็มดับเบิลยู 2 ซีรีส์ (สำหรับ คูเป้/รถเปิดประทุน) |
บีเอ็มดับเบิลยู 1 ซีรีส์ (อังกฤษ: BMW 1 Series) เป็นรถยนต์นั่งขนาดเล็กของบีเอ็มดับเบิลยู โดยเริ่มผลิตตั้งแต่ พ.ศ. 2547 ปัจจุบันมีทั้งหมด 3 โฉมด้วยกันคือ
รุ่นที่ 1 (E87; พ.ศ. 2547-พ.ศ. 2556)
[แก้]บีเอ็มดับเบิลยู 1 ซีรีส์ รุ่นที่ 1 หรือ E87 เปิดตัวครั้งแรกในปี พ.ศ. 2547 โดยมี 3 ประตู และ 5 ประตู แฮทช์แบคให้เลือก และมี 2 ประตูคูเป้ตามมาในปี พ.ศ. 2550 ในประเทศไทยเปิดตัวเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2547 โดยจำหน่ายในรุ่น 120i 5 ประตู พร้อมเครื่องยนต์ 1,995 ซีซี พร้อมระบบ Double VANOS และ Valvetronic 150 แรงม้า (PS) ที่ 6,200 แรงบิดสูงสุด 20.38 กก.-ม.ที่ 3,600 รอบ/นาที[1] แต่ไม่ประสบความสำเร็จจึงยกเลิกทำตลาดไป แต่ก็ได้กลับมาจำหน่ายอีกครั้ง ในรุ่น 120d 2 ประตูคูเป้ พร้อมเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร N47D20 บล็อก 4 สูบเรียง แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จเช่นกันจึงยุติการทำตลาดไปในที่สุด
รุ่นที่ 2 (F20; พ.ศ. 2556-2562)
[แก้]บีเอ็มดับเบิลยู 1 ซีรีส์ รุ่นที่ 2 หรือ F20 เปิดตัวเมื่อปี พ.ศ. 2556 โดยยังมี 3 ประตู และ 5 ประตู แฮทช์แบคให้เลือกเช่นเคย ส่วน 2 ประตูคูเป้ได้ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น 2 ซีรีส์ ในประเทศไทย รุ่นนี้เปิดตัวในงาน Motor Expo 2013 โดยได้ทำตลาดดังนี้
พ.ศ. 2556
- เปิดตัวอย่างเป็นทางการโดยใช้รหัสรุ่น 116i โดยจำหน่ายรุ่น M Sport เพียงรุ่นย่อยเดียว และเป็นรุ่นนำเข้าทั้งคัน พร้อมเครื่องยนต์เบนซิน TwinPower Turbo ขนาด 1,598 ซีซี 4 สูบ ฝาสูบแบบ DOHC 16 วาล์ว พร้อมระบบแปรผันวาล์ว Double-VANOS และ VALVETRONIC ติดตั้งระบบอัดอากาศเทอร์โบแบบ Twin-scroll พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลังสูงสุด 136 แรงม้า ที่ 4,400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 22.41 กก.-ม. ที่ 1,350-4,400 รอบต่อนาที ส่งกำลังสู่ล้อคู่หลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ[2]
พ.ศ. 2557
- เปิดตัวรุ่นประกอบในประเทศ
- เพิ่มรุ่นย่อยเป็นรุ่น 116i Sport
พ.ศ. 2558
- เปิดตัวรุ่นปรับโฉม LCI โดยเปลี่ยนรหัสรุ่นเป็น 118i และยังมี 2 รุ่นย่อยคือ Sport และ M Sport
พ.ศ. 2559
- มีการเปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่เป็นเครื่องยนต์เบนซิน B38B15A 3 สูบ 12 วาล์ว 1,499 ซี.ซี. 136 แรงม้า (PS) ที่ 4,500-6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 220 นิวตัน-เมตรที่ 1,250-4,000 รอบต่อนาที[3]
- มีการตัดรุ่น 118i Sport ออกไป
พ.ศ. 2560
- มีการเปลี่ยนหน้าจอ new interface เหมือนรุ่นอื่นๆ
พ.ศ. 2561
- มีการเปิดตัวรุ่นปรับโฉม LCI รอบที่ 2 โดยเปิดตัว 118i M Sport (M Performance Edition) ด้วยชุดแต่ง M Performance รอบคัน พร้อมคอนโซลหน้าใหม่ และมาตรวัดแบบดิจิตัล (รุ่นก่อนปรับโฉมและรุ่นปรับโฉม LCI รอบที่ 1 เป็นมาตรวัดแบบอนาล็อก)
1 Series sedan (F52; พ.ศ. 2560–ปัจจุบัน)
[แก้]BMW 1 Series Sedan เตรียมเปิดตัวในงาน Guangzhou Motor Show ที่กำลังจะมาถึง รูปลักษณ์ภายนอก และภายในเรียกได้ว่าแทบจะไม่แตกต่างไปจากที่เรานำมาเสนอในครั้งก่อน เส้นสายหรือหน้ามีความใกล้เคียงกับพี่ใหญ่กลาง 3 Series F30 ถูกพัฒนาโดยสำนักงานใหญ่ที่เมือง Munich ประเทศเยอรมนี ซึ่งร่วมมือกับวิศวกรในประเทศจีนเพื่อผลิต 1 Series Sedan และทำการทดสอบให้ตอบโจทย์ในการใช้งานในประเทศจีน โดยคำนึงถึง การขับขี่ การจราจร และสภาพอากาศ เพื่อตอบโจทย์การใช้งานจริงที่เหมาะสมที่สุดในประเทศจีน โครงสร้างตัวรถจะแบ่งเป็น 2 รุ่น(ฐานล้อสั้น / ฐานล้อยาว) มิติของตัวรถมีขนาดความยาว 4,456 มิลลิเมตร กว้าง มิลลิเมตร 1,803 สูง 1,446 มิลลิเมตร และมีช่วงฐานล้อที่ยาวถึง 2,670 มิลลิเมตร ทำให้มีพื้นที่กว้างขวางมากยิ่งขึ้น ซึ่งได้ความร่วมมมือระหว่าง BMW และ Brilliance Auto ของจีน เปิดตัวในงาน Guangzhou Auto Show 2016 ระหว่างวันที่ 19-27 พฤศจิกายนนี้ และผลิตในเมืองจีน ที่โรงงานร่วมทุนของ BMW-Brilliance Auto
รุ่นที่ 3 (F40; พ.ศ. 2562-ปัจจุบัน)
[แก้]ทำตลาดมา 13 ปี เปลี่ยนแปลงมาแล้ว 2 เจเนอเรชั่น สำหรับ BMW 1 Series Hatchback หรู ที่ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น พร้อมเป็นคู่กัดสัญชาติเดียวกันอย่าง Mercedes-Benz A-Class แบบสมน้ำสมเนื้อ ล่าสุด BMW กำลังพัฒนาเจเนอเรชั่นที่ 3 ภายใต้รหัสตัวรถ F40 โดยใช้แพลตฟอร์มใหม่ UKL platform ซึ่งเป็นแพลต์ฟอร์มเดียวกับรุ่น X1 เจนปัจจุบัน และ 1 Series Sedan พร้อมทั้งเปลี่ยนระบบขับเคลื่อนจากขับหลังเป็นขับหน้าและขยายฐานล้อมาเป็น 2,690 มม. ขุมพลังสำหรับเจ้า BMW 1 Series เจนใหม่ มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล จากตระกูล Twin Power Turbo เท่านั้น เนื่องจากแพลตฟอร์ม UKL platform ออกแบบมารองรับเครื่องยนต์เล็กแบบ 3 สูบกับ 4 สูบ แต่ไม่ได้รองรับเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ 6 สูบ แถวเรียง พร้อมกันนี้ยังมีเครื่องยนต์เบนซิน plug-in hybrid ที่ใช้เทคโนโลยีเดียวกับ MINI Countryman ร่วมประจำการด้วย
อ้างอิง
[แก้]- ↑ http://topicstock.pantip.com/ratchada/topicstock/V3637289/V3637289.html
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-01-15. สืบค้นเมื่อ 2018-04-10.
- ↑ http://www.headlightmag.com/bmw-driving-experience-2016/