การขยายตัวของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
การขยายตัวของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นกระบวนการซึ่งขยายสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยการรับรัฐสมาชิกใหม่เข้ามา กระบวนการดังกล่าวเริ่มต้นขึ้นเมื่อสมาชิกก่อตั้งห้าประเทศ ที่ได้ลงนามในปฏิญญากรุงเทพฯ ใน พ.ศ. 2510 นับตั้งแต่นั้น ประเทศสมาชิกอาเซียนได้เพิ่มเป็นสิบประเทศ โดยประเทศล่าสุดที่เข้าร่วมกับอาเซียนคือ ประเทศกัมพูชา ใน พ.ศ. 2542 ปัจจุบัน การเจรจารับเข้าเป็นสมาชิกกำลังอยู่ในระหว่างขั้นตอนกับสองรัฐ ได้แก่ ประเทศปาปัวนิวกินี[1][2] และประเทศติมอร์-เลสเต[3]
เกณฑ์
[แก้]เกณฑ์สมาชิกภาพ
[แก้]หนึ่งในเกณฑ์สมาชิกภาพ คือ สมาชิกตามที่มุ่งหวังนั้นจะต้องตกลงลงนามหรือเข้าร่วมกับสนธิสัญญา แถลงการณ์และความตกลงทั้งหมดในอาเซียน เริ่มตั้งแต่ที่ระบุไว้ในปฏิญญากรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2510 และที่เพิ่มเติมและพัฒนาขึ้นในสนธิสัญญา แถลงการณ์และความตกลงของอาเซียนในกาลต่อมา ความกังวลร่วมกันอย่างหนึ่งซึ่งจะต้องหยิบยกขึ้นผ่านการเจรจา คือ ความสามารถของสมาชิกที่คาดหวังในการเข้าร่วมกับเขตการค้าเสรีอาเซียน และการจัดการความร่วมมือทางเศรษฐกิจอื่นทั้งหมด อีกหนึ่งวิธีกำหนดเป้าหมายของสมาชิกที่มุ่งหวังที่สำคัญคือ การเข้าร่วมในการประชุมอาเซียนและการมีส่วนร่วมในโครงการความร่วมมือต่าง ๆ[4]
ปฏิญญากรุงเทพฯ มิได้วางเงื่อนไขสมาชิกภาพใด นอกเหนือไปจากว่าประเทศนั้นจะต้องตั้งอยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และหลักความสัมพันธ์ระหว่างรัฐทั่วไป อาเซียนไม่มีเกณฑ์สมาชิกภาพที่เกี่ยวข้องกับลักษณะของรัฐบาล ระบบและทิศทางของอุดมการณ์ นโยบายเศรษฐกิจหรือระดับการพัฒนา หากมีเกณฑ์ดังกล่าวมากำหนดสมาชิกภาพแล้ว องค์การความร่วมมือในภูมิภาคจะไม่อาจเกิดขึ้นได้เลยในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งทำให้องค์การดังกล่าวมีความหลากหลาย[5] และเพื่อจะได้รับการยอมรับเป็นรัฐสมาชิกอาเซียน รัฐนั้นจะต้องมีสถานเอกอัครราชทูตอยู่ในทุกประเทศสมาชิกในปัจจุบันของกลุ่ม[6]
เกณฑ์การได้รับสถานะผู้สังเกตการณ์
[แก้]เจ้าหน้าที่อาวุโสของอาเซียนได้ตกลงใน พ.ศ. 2526 ว่า สถานะผู้สังเกตการณ์ "ควรมอบให้เฉพาะกับรัฐที่มีศักยภาพเข้าเป็นสมาชิกอาเซียนที่เป็นไปตามเกณฑ์สมาชิกภาพอาเซียน" โดยมีเกณฑ์ข้อหนึ่งระบุว่า "มีเพียงรัฐในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เท่านั้นที่เข้าเป็นสมาชิกอาเซียนได้"[5]
เกณฑ์การเข้าร่วมการประชุมอาเซียนว่าด้วยความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก
[แก้]การประชุมอาเซียนว่าด้วยความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (ASEAN Regional Forum, ARF) เวทีอภิปรายพหุภาคีในหมู่ประเทศเอเชียแปซิฟิก มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการเจรจาและการปรึกษาระหว่างประเทศ ทั้งยังสนับสนุนการเสริมสร้างความเชื่อมั่นและการทูตเชิงป้องกันทั่วภูมิภาค[7] เกณฑ์สมาชิกภาพสำหรับ ARF เช่นเดียวกับคู่เจรจาอื่น ๆ ระบุไว้ระหว่าง ARF ครั้งที่สองใน พ.ศ. 2539 ในกรุงจาการ์ตา รัฐมนตรี ARF รับเกณฑ์ที่ว่า ผู้ที่จะเข้าเป็นสมาชิก ARF ต้องเป็นรัฐอธิปไตย ซึ่งตามนโยบายจีนเดียว ชัดเจนว่าต้องไม่นับรวมไต้หวัน พวกเขาต้อง "ปฏิบัติตามและเคารพการตัดสินใจและแถลงการณ์ที่ ARF กระทำไว้แล้วอย่างเต็มที่" เกณฑ์ดังกล่าวเน้นว่า สมาชิกอาเซียนมีส่วนใน ARF "โดยอัตโนมัติ"[5]
การขยายตัวในอดีต
[แก้]สมาชิกผู้ก่อตั้ง
[แก้]อาเซียนถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2510 เมื่อรัฐมนตรีต่างประเทศของห้าประเทศ ได้แก่ ประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และไทย ประชุมกันที่พระราชวังสราญรมย์ อันเป็นที่ตั้งของกระทรวงการต่างประเทศของไทยในกรุงเทพมหานคร ณ ขณะนั้น และลงนามปฏิญญาอาเซียน ซึ่งรู้จักกันมากกว่าในชื่อ ปฏิญญากรุงเทพ โดยรัฐมนตรีทั้งห้า ได้แก่ อดัม มาลิกจากสาธารณรัฐอินโดนีเซีย นาร์ซิโซ รามอสจากสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ อับดุล ราซัก ฮุซเซนจากมาเลเซีย เอส. ราชารัตนัมจากสาธารณรัฐสิงคโปร์ และถนัด คอมันตร์จากราชอาณาจักรไทย ซึ่งถือได้ว่าเป็นบิดาผู้ก่อตั้งองค์กร[8]
การขยายตัวแรก
[แก้]ใน พ.ศ. 2519 ประเทศปาปัวนิวกินีในเมลานีเซีย ได้รับสถานะผู้สังเกตการณ์[9]
กลุ่มอาเซียนมีสมาชิกเพิ่มขึ้นเมื่อประเทศบรูไนเข้าเป็นสมาชิกลำดับที่ 6 เมื่อวันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2527 เพียงแค่หนึ่งสัปดาห์หลังได้รับเอกราชเมื่อวันที่ 1 มกราคม ปีเดียวกัน[10]
ส่วนประเทศเวียดนามได้รับสถานะผู้สังเกตการณ์ใน พ.ศ. 2536 และได้เข้าเป็นสมาชิกลำดับที่ 7 ในวันที่วันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2538[11]
ลาว พม่า และกัมพูชา
[แก้]สมาชิกสามประเทศล่าสุดของอาเซียนยื่นคำขอเข้าร่วมกลุ่มในคริสต์ทศวรรษ 1990
ประเทศลาวเป็นผู้สังเกตการณ์อาเซียนในการประชุมรัฐมนตรีอาเซียน (AMM) ครั้งที่ 25 ที่จัดขึ้นที่กรุงมะนิลา ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2535 ครั้งที่ 28 ที่กรุงบันดาร์เซอรีเบอกาวัน ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2538 สมสะหวาด เล่งสะหวัด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของลาว ได้กล่าวว่า เขาปรารถนาจะเห็นลาวเข้าเป็นสมาชิกอาเซียนใน พ.ศ. 2540 โดยความปรารถนาดังกล่าวได้แสดงในจดหมายขอเข้าเป็นสมาชิกอาเซียนของลาว ลงวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2539[4]
ประเทศกัมพูชาได้รับสถานะผู้สังเกตการณ์ที่ AMM ครั้งที่ 28 ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงบันดาร์เซอรีเบอกาวัน ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2538 อึง ฮวด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือนานาชาติของกัมพูชา ได้ยื่นคำขอเข้าเป็นสมาชิกอาเซียนในจดหมายลงวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2539 เช่นเดียวกับลาว กัมพูชาปรารถนาจะเข้าร่วมกับอาเซียนใน พ.ศ. 2540[4]
ส่วนประเทศพม่า โอนจอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของพม่า เข้าร่วม AMM ครั้งที่ 27 ณ กรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2537 และครั้งที่ 28 ณ กรุงบันดาร์เซอรีเบอกาวัน พ.ศ. 2538 ในฐานะแขกของรัฐเจ้าภาพ ระหว่างการประขุม AMM ครั้งที่ 28 พม่าเข้าเป็นภาคีสนธิสัญญาไมตรีและความร่วมมือในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และยื่นคำขอสถานะผู้สังเกตการณ์อาเซียน
ต้านชเว นายกรัฐมนตรีพม่า พร้อมด้วย คำไต สีพันดอน นายกรัฐมนตรีลาว และสมเด็จกรมพระนโรดม รณฤทธิ์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เข้าร่วมการประชุมกับหัวหน้ารัฐบาลอาเซียนระหว่างการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนครั้งที่ 5 ณ กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2538 เขาแสดงความหวังว่า พม่าจะได้รับสถานะผู้สังเกตการณ์อาเซียนในการประชุม AMM ครั้งถัดไป คือครั้งที่ 29 ที่จัดขึ้นที่ประเทศอินโดนีเซีย ใน พ.ศ. 2539[4]
คณะกรรมการความมั่นคงอาเซียน (ASC) ก่อตั้งคณะทำงานว่าด้วยสมาชิกภาพของกัมพูชาและลาวเพื่อพิจารณาประเด็นทั้งหมดภายใต้ขอบเขตของ ASC ที่เกี่ยวข้องกับการเตรียมการสำหรับและของสมาชิกที่คาดหวังทั้งสองประเทศในการเข้าร่วมกับอาเซียน วันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2539 คณะทำงานจุดการประชุมกับเลขาธิการของกรมอาเซียนลาวในกรุงจาการ์ตา[4]
ในการประชุม AMM ครั้งที่ 29 พม่าได้รับสถานะผู้สังเกตการณ์ในอาเซียน รัฐมนตรีต่างประเทศของพม่าได้ปรึกษากับอาเซียนและเข้าร่วมการประชุมความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2539 รัฐมนตรีต่างประเทศของพม่าได้ยื่นคำขอเข้าเป็นสมาชิกอาเซียนของพม่าอย่างเป็นทางการ ทั้งยังได้แสดงความปรารถนาว่าพม่าจะเข้าเป็นสมาชิกอาเซียนภายใน พ.ศ. 2540 พร้อมกัมพูชาและลาว[4]
ASC ได้ขยายอำนาจของคณะทำงานที่กำลังศึกษาสมาชิกภาพของกัมพูชาและลาวให้รวมสมาชิกภาพของพม่าด้วย[4] ลาวและพม่าได้เข้าเป็นสมาชิกอาเซียนเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2540 เป็นลำดับที่ 8 และ 9 ตามลำดับ กัมพูชาเองก็มีกำหนดเข้าร่วมพร้อมกับลาวและพม่าเช่นกัน แต่ถูกเลื่อนออกไปเพราะการต่อสู้ทางการเมืองภายในประเทศ ภายหลังได้เข้าเป็นสมาชิกลำดับที่ 10 เมื่อวันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2542 หลังรัฐบาลมีเสถียรภาพมั่นคงแล้ว[12][13]
ระหว่างคริสต์ทศวรรษ 1990 กลุ่มมีสมาชิกเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกับแรงขับเคลื่อนให้บูรณาการมากขึ้น ใน พ.ศ. 2533 มาเลเซียเสนอให้จัดตั้งความร่วมมือทางเขตเศรษฐกิจเอเชียตะวันออก (EAEC)[14] ซึ่งประกอบด้วยสมาชิกอาเซียนขณะนั้น เช่นเดียวกับประเทศจีน ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ โดยมีเจตนาเพื่อถ่วงดุลอิทธิพลที่เพิ่มมากขึ้นของสหรัฐในความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (APEC) เช่นเดียวกับในภูมิภาคเอเชียโดยรวม[15][16] อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอดังกล่าวล้มเหลว เพราะได้รับเสียงคัดค้านอย่างหนักจากสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น[15][17] แม้จะล้มเหลว รัฐสมาชิกยังคงทำงานเพื่อบูรณาการต่อไปและอาเซียนบวกสามถูกจัดตั้งขึ้นใน พ.ศ. 2540
ใน พ.ศ. 2535 แผนอัตราศุลกากรพิเศษที่เท่ากัน (Common Effective Preferential Tariff - CEPT) มีการลงนามเป็นกำหนดการภาษีศุลกากรและมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มข้อได้เปรียบด้านการแข่งขันของภูมิภาคเป็นฐานการผลิตที่ขับเคลื่อนตลาดโลก กฎหมายดังกล่าวอาจเป็นเสมือนกรอบของเขตการค้าเสรีอาเซียน หลังจากวิกฤตการณ์การเงินในเอเชีย พ.ศ. 2540 มาเลเซียก็รื้อฟื้นข้อเสนอขึ้นมาอีกครั้งในการประชุมที่เชียงใหม่ หรือรู้จักกันในชื่อ มาตรการริเริ่มเชียงใหม่ ซึ่งเรียกร้องบูรณาการที่ดียิ่งขึ้นระหว่างเศรษฐกิจอาเซียนเช่นเดียวกับประเทศอาเซียนบวกสาม[18]
การขยายตัวในอนาคต
[แก้]รัฐสังเกตการณ์
[แก้]ปาปัวนิวกินี
[แก้]ประเทศปาปัวนิวกินี เป็นประเทศผู้สังเกตการณ์นับตั้งแต่ พ.ศ. 2519 ก่อนหน้าประเทศสมาชิกอาเซียนที่มิได้เป็นสมาชิกก่อตั้งเสียอีก ข้อเท็จจริงที่ว่าปาปัวนิวกินีเป็นประเทศนอกเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ได้รับสถานะผู้สังเกตการณ์ เพราะการรับรองปาปัวนิวกินีมีก่อนการใช้บังคับการตัดสินใจใน พ.ศ. 2526 ซึ่งจำกัดให้เฉพาะประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เท่านั้นจึงจะสามารถเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มภูมิภาคได้
ระหว่างการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนครั้งที่ 29 ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงจาการ์ตาใน พ.ศ. 2539 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของปาปัวนิวกินี คิลรอย จีเนีย ได้แสดงความปรารถนาของปาปัวนิวกินีในการเสริมสร้างปฏิสัมพันธ์กับอาเซียน โดยเสนอว่าปาปัวนิวกินีจะขอเป็นสมาชิกประเภทสมทบถาวรของอาเซียน[19] นายกรัฐมนตรีปาปัวนิวกินี ไมเคิล โซมาร์ ชี้ระหว่างการเดินทางเยือนประเทศฟิลิปปินส์ใน พ.ศ. 2552 ว่า ประเทศของเขาพร้อมและสามารถเติมเต็มข้อกำหนดสมาชิกภาพในการรวมกลุ่มภูมิภาค[20]
ที่ตั้งทางภูมิศาสตร์เป็นอุปสรรคขวางกั้นการเข้าเป็นสมาชิกอาเซียนของปาปัวนิวกินี แม้จะตั้งอยู่ไม่ห่างจากกรุงจาการ์ตา อันเป็นที่ตั้งของสำนักงานเลขาธิการอาเซียน มากไปกว่าตอนเหนือของประเทศพม่า แต่ในทางภูมิศาสตร์ ปาปัวนิวกินีมิใช่ส่วนหนึ่งของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรือทวีปเอเชีย เมื่อปาปัวนิวกินีได้รับสถานะผู้สังเกตการณ์เมื่อ พ.ศ. 2519 อาเซียนก็ได้รับรองว่าปาปัวนิวกินีมีภูมิภาคทางการเมืองและเศรษฐกิจเดียวกันกับสมาชิกอาเซียน ทั้งยังเชื่อมโยงกันทางภูมิศาสตร์ เพราะปาปัวนิวกินีกินพื้นที่ครึ่งหนึ่งของเกาะนิวกินีอันมีขนาดใหญ่ ซึ่งอีกครึ่งของเกาะเป็นที่ตั้งของจังหวัดปาปัวและปาปัวตะวันตกของประเทศอินโดนีเซีย นับแต่นั้นปาปัวนิวกินีก็รอคอยนาน 35 ปีที่จะกลายเป็นสมาชิกเต็มตัว
ติมอร์-เลสเต
[แก้]เมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2554 ประเทศติมอร์-เลสเตได้ยื่นคำร้องขอเป็นสมาชิกอาเซียน[21] ซึ่งเป็นท่าทีที่ได้รับการสนับสนุนจากอินโดนีเซีย[22]
ติมอร์-เลสเตซึ่งได้รับเอกราชเมื่อ พ.ศ. 2545 ได้เข้าร่วมการแข่งขันซีเกมส์ นับแต่ พ.ศ. 2546 ได้รับเชิญเข้าร่วมการประชุมอาเซียนว่าด้วยความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกเป็นครั้งแรกใน พ.ศ. 2548 ทำให้เป็นประเทศที่ 25 ที่เข้าร่วมการประชุมดังกล่าว ประธานาธิบดีติมอร์-เลสเต ฌูแซ รามุช-ออร์ตา หวังว่าจะได้รับสมาชิกภาพก่อน พ.ศ. 2555[23]
รัฐที่มีโอกาสสังเกตการณ์
[แก้]บังกลาเทศ
[แก้]ประเทศลาวสนับสนุนให้ประเทศบังกลาเทศเข้ามาเป็นประเทศผู้สังเกตการณ์ในอาเซียนเมื่อ พ.ศ. 2554[24]
ฟีจี
[แก้]ประเทศฟีจีได้แสดงความสนใจที่จะได้รับสถานะผู้สังเกตการณ์อาเซียน ใน พ.ศ. 2554 ซูซีโล บัมบัง ยูโดโยโน ประธานาธิบดีอินโดนีเซียกล่าวว่าเขาได้แจ้งต่อประธานาธิบดีฟีจี แฟรงก์ ไบนิมารามา ว่าเขาจะสนับสนุนให้พิจารณาคำขอนี้ในช่วงที่อินโดนีเซียเป็นประธานอาเซียน[25]
รัฐที่แสดงความสนใจ
[แก้]ศรีลังกา
[แก้]เริ่มแรกประเทศศรีลังกาได้รับเชิญให้เข้าร่วมอาเซียนในฐานะสมาชิกผู้ก่อตั้งเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2510 อย่างไรก็ตามประเทศดังกล่าวไม่ได้ดำเนินการเนื่องจากอาเซียนเป็นฝ่ายสนับสนุนตะวันตก และศรีลังกาเองก็ดำเนินนโยบายไม่เข้าแนวร่วม[26][27] นอกจากนี้ยังมีการคัดค้านจากประเทศสิงคโปร์ในเรื่องความไม่มั่นคงภายในประเทศจากความตึงเครียดระหว่างสองกลุ่มชาติพันธุ์หลักของศรีลังกา[28] ความสนใจจากภายในประเทศปรากฏชัดในเวลาต่อมาและพยายามเข้าร่วมอาเซียนภายในปี พ.ศ. 2524[29][30][31] ใน พ.ศ. 2550 ศรีลังกาเป็นหนึ่งใน 27 ประเทศที่เข้าร่วม ARF[32]
รัฐที่ถูกกล่าวถึง
[แก้]ออสเตรเลีย
[แก้]ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 คณะผู้เชี่ยวชาญอิสระของสถาบันนโยบายยุทธศาสตร์ออสเตรเลีย แนะนำว่าประเทศออสเตรเลียและประเทศนิวซีแลนด์ควรเข้าร่วมอาเซียนใน พ.ศ. 2567[33] ใน พ.ศ. 2561 ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย โจโก วีโดโด ได้ระบุว่าระหว่างการให้สัมภาษณ์กับแฟร์แฟกซ์มีเดีย ว่า ออสเตรเลียควรจะเข้าร่วมองค์กรด้วย[34] ใน พ.ศ. 2559 พอล คีตติง อดีตนายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ได้แนะนำให้ออสเตรเลียเข้าร่วมอาเซียน[35]
มองโกเลีย
[แก้]ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2560 โรดรีโก ดูแตร์เต ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์กล่าวว่าประเทศมองโกเลียและประเทศตุรกีแสดงความปรารถนาที่จะเข้าร่วมอาเซียน จากนั้นก็ระบุอีกว่าเขาจะผลักดันให้ประเทศสมาชิกอื่น ๆ เห็นพ้องด้วยกัน[36]
นิวซีแลนด์
[แก้]ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 คณะผู้เชี่ยวชาญอิสระของสถาบันนโยบายยุทธศาสตร์ออสเตรเลีย แนะนำว่าประเทศออสเตรเลียและประเทศนิวซีแลนด์ควรเข้าร่วมอาเซียนใน พ.ศ. 2567[33]
ปาเลา
[แก้]ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2562 นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยจอนส์ฮอปกินส์แนะนำว่าประเทศปาเลามีศักยภาพพอที่จะเข้าร่วมในอาเซียนอย่างมีนัยยะ จากนั้นเขาก็โต้แย้งว่าสหรัฐควรพยายามเกลี้ยกล่อมให้ประเทศไทยผลักดันสถานะผู้สังเกตการณ์ให้กับปาเลาในระหว่างที่ดำรงตำแหน่งประธานอาเซียน[37]
ตุรกี
[แก้]ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2560 โรดรีโก ดูแตร์เต ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์กล่าวว่าประเทศมองโกเลียและประเทศตุรกีแสดงความปรารถนาที่จะเข้าร่วมอาเซียน จากนั้นก็ระบุอีกว่าเขาจะผลักดันให้ประเทศสมาชิกอื่น ๆ เห็นพ้องด้วยกัน[36]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ Papua New Guinea asks RP support for Asean membership bid Retrieved 2009-07-08
- ↑ Somare seeks PGMA's support for PNG's ASEAN membership bid เก็บถาวร 2010-03-06 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน Retrieved 2009-07-08
- ↑ East Timor ASEAN Bid Retrieved 2006-07-28
- ↑ 4.0 4.1 4.2 4.3 4.4 4.5 4.6 Preparations for the Membership of ASEAN Retrieved 2011-05-14
- ↑ 5.0 5.1 5.2 Severino, Rodolfo (2006) Southeast Asia in search of an ASEAN community: insights from the former ASEAN secretary-general, Institute of Southeast Asian Studies.
- ↑ Aquino to back East Timor's bid for ASEAN membership เก็บถาวร 2012-03-27 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน Retrieved 2011-05-14
- ↑ About Us เก็บถาวร 2013-07-25 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, ASEAN Regional Forum official website เก็บถาวร 2013-07-25 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. Retrieved 12 June 2006.
- ↑ Bernard Eccleston, Michael Dawson, Deborah J. McNamara (1998). The Asia-Pacific Profile. Routledge (UK). ISBN 0-415-17279-9.
{{cite book}}
: CS1 maint: multiple names: authors list (ลิงก์) - ↑ "ASEAN secretariat". ASEAN. 23RD JULY 1999. สืบค้นเมื่อ 12 January 2009.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|date=
(help) - ↑ "Background Note:Brunei Darussalam/Profile:/Foreign Relations". United States State Department. สืบค้นเมื่อ 6 March 2007.
- ↑ "Vietnam in ASEAN : Toward Cooperation for Mutual Benefits". ASEAN Secretariat. 2007. สืบค้นเมื่อ 28 August 2009.
- ↑ Carolyn L. Gates; Mya Than (2001). ASEAN Enlargement: impacts and implications. Institute of Southeast Asian Studies. ISBN 981-230-081-3.
- ↑ "Statement by the Secretary-General of ASEAN Welcoming the Kingdom of Cambodia as the Tenth Member State of ASEAN : 30 April 1999, ASEAN Secretariat". ASEAN Secretariat. 2008. สืบค้นเมื่อ 28 August 2009.
- ↑ East Asia Economic Caucus. ASEAN Secretariat. Retrieved 14 March 2007.
- ↑ 15.0 15.1 Asiaviews.org, Whither East Asia? Retrieved 14 March 2007.
- ↑ UNT.edu, Asia's Reaction to NAFTA, Nancy J. Hamilton. CRS - Congressional Research Service. Retrieved 14 March 2007.
- ↑ IHT.com, Japan Straddles Fence on Issue of East Asia Caucus. International Herald Tribune. Retrieved 14 March 2007.
- ↑ "Regional Financial Cooperation among ASEAN+3". Japanese Ministry of Foreign Affairs. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-10-09. สืบค้นเมื่อ 29 September 2008.
- ↑ OPENING STATEMENT BY H.E. AMBASSADOR LEONARD LOUMA SPECIAL ENVOY OF THE PAPUA NEW GUINEA GOVERNMENT
- ↑ Papua New Guinea asks RP support for Asean membership bid
- ↑ McGeown, Kate (2011-03-04). "East Timor applies to join Asean". BBC News. สืบค้นเมื่อ 2012-03-27.
- ↑ Dua, Nusa (2012-03-27). "I have my own view, SBY tells PM Lee Hsien Loong". Jakarta Post. สืบค้นเมื่อ 2012-03-27.
- ↑ "Timor's key concern: preparing for ASEAN membership". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-08-17. สืบค้นเมื่อ 2012-08-09.
- ↑ "Lao to back Bangladesh for getting observer status of ASEAN". The News Today. 2011-06-14. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-03-13. สืบค้นเมื่อ 2012-08-06.
- ↑ "Indoensia Backs Fiji's ASEAN Bid". Fiji Sun. April 7, 2011.
- ↑ David M. Malone; C. Raja Mohan; Srinath Raghavan, บ.ก. (23 July 2015). The Oxford Handbook of Indian Foreign Policy. Oxford University Press. p. 455. ISBN 9780191061189.
- ↑ V. Suryanarayan (December 27, 2011). "Sri Lanka: Fresh Insights On Attempts To Join ASEAN – Analysis". Eurasia Review.
- ↑ "Singapore's Rajaratnam prevented Sri Lanka joining ASEAN – The Nation". Asian Tribune. August 7, 2007. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-07-31. สืบค้นเมื่อ 2021-05-27.
- ↑ Mervyn De Silva (May 31, 1981). "Sri Lanka: Operation ASEAN". India Today.
- ↑ Charan D. Wadhva; Mukul G. Asher, บ.ก. (1985). ASEAN-South Asia Economic Relations. p. 341. ISBN 9789971902988.
- ↑ "Let Us Join ASEAN". Daily News. December 1, 2016.
- ↑ "Sri Lanka becomes the 27th participant to join ASEAN Regional Forum (ARF)". Ministry of Foreign Affairs Sri Lanka. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-12-08. สืบค้นเมื่อ 2021-05-27.
- ↑ 33.0 33.1 Dobell, Graeme. "Australia as an ASEAN Community partner". Australian Strategic Policy Institute. สืบค้นเมื่อ 15 March 2018.
- ↑ Grigg, Angus (15 March 2018). "Indonesian President Jokowi wants Australia in ASEAN, said free trade deal is close". Australian Financial Review. สืบค้นเมื่อ 15 March 2018.
- ↑ Karp, Paul (10 November 2016). "Paul Keating calls for more independent Australian foreign policy after US election". The Guardian. สืบค้นเมื่อ 15 March 2018.
- ↑ 36.0 36.1 "Turkey, Mongolia could join ASEAN: Duterte". Gulf Times. 16 May 2017. สืบค้นเมื่อ 19 June 2019.
- ↑ Walsh, Michael (18 June 2019). "Rethinking Palau's Place in the Free and Open Indo-Pacific". The Diplomat Magazine. สืบค้นเมื่อ 19 June 2019.