เจ้าพระยารัตนาธิเบศร์ (พุ่ม ศรีไชยยันต์)
บทความนี้ไม่มีการอ้างอิงจากแหล่งที่มาใด |
บทความนี้อาจต้องเขียนใหม่ทั้งหมดเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานคุณภาพของวิกิพีเดีย หรือกำลังดำเนินการอยู่ คุณช่วยเราได้ หน้าอภิปรายอาจมีข้อเสนอแนะ |
เจ้าพระยารัตนาธิเบศร์ (พุ่ม ศรีไชยยันต์) | |
---|---|
สมุหพระกลาโหม | |
ดำรงตำแหน่ง พ.ศ. 2431 – พ.ศ. 2437 | |
กษัตริย์ | พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว |
ก่อนหน้า | เจ้าพระยาสุรวงศ์ไวยวัฒน์ (วร บุนนาค) |
ถัดไป | สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ |
เสนาบดีกระทรวงเกษตราธิการ | |
ดำรงตำแหน่ง ? – ? | |
ก่อนหน้า | เจ้าพระยาเทเวศร์วงศ์วิวัฒน์ (หม่อมราชวงศ์หลาน กุญชร) |
ถัดไป | พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | พ.ศ. 2363 |
เสียชีวิต | 9 กันยายน พ.ศ. 2444 (81 ปี) |
ศาสนา | พุทธ |
คู่สมรส | ท่านผู้หญิงสุ่น รัตนาธิเบศร์ (เสียชีวิต)[1] |
บุพการี |
|
เจ้าพระยารัตนาธิเบศร์ นามเดิม พุ่ม เป็นขุนนางชั้นผู้ใหญ่ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ดำรงตำแหน่งสูงสุดของขุนนาง (ข้าราชการ) ไทยในสมัยนั้น คือตำแหน่งสมุหพระกลาโหม เมื่อ พ.ศ. 2438 นอกจากจะเป็นข้าราชการที่กล้าหาญ ซื่อตรงจงรักภักดีต่อชาติบ้านเมืองและพระมหากษัตริย์แล้ว ท่านยังเป็นบุคคลที่ใจบุญใฝ่ในธรรมะ มีเมตตากรุณา เมื่อครั้งที่ท่านมาทอดกฐิน ณ วัดบางขวาง อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี ท่านทราบว่าพระครูศีลาภิรมต้องการเงินสร้างโรงเรียน ท่านจึงบริจาคเงินจำนวน 100 ชั่งสร้างอาคารหลังแรกขึ้นได้รับการขนานนามว่า โรงเรียนรัตนาธิเบศร์ เป็นโรงเรียนแห่งแรกของจังหวัดนนทบุรี จึงถือได้ว่าท่านเจ้าพระยารัตนาธิเบศร์นอกจากจะเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ของประเทศแล้วท่านยังเป็นผู้ให้กำเนิดสถาบันการศึกษาแห่งแรก ของจังหวัดนนทบุรีด้วย
เป็นบุตรคนที่ 4 ของหลวงจีนประชา (ทองอยู่) ยกบัตรเมืองนครไชยศรี เกิดเมื่อ พ.ศ. 2363 ปีมะโรง บิดามารดามีบ้านเป็นแพลอยอยู่หน้าวัดทองธรรมชาติ-ฝั่งธนบุรี เจ้าพระยารัตนาธิเบศร์ มีพี่น้องร่วมบิดามารดา 5 คน
ตำแหน่ง
ตำแหน่งทางราชการของเจ้าพระยารัตนาธิเบศร์ (พุ่ม ศรีไชยยันต์)
สมัยรัชกาลที่ ๔
- ขุนสมุทรโคจร กรมมหาดเล็ก
สมัยรัชกาลที่ ๕
- พระนรินทรราชเสนี ปลัดบัญชี กรมพระกลาโหม
- พระยาเทพประชุน ปลัดทูลฉลอง กรมพระกลาโหม
- พ.ศ. 2429 เจ้าพระยาพลเทพ ตำแหน่งเสนาบดี กระทรวงเกษตราธิการ[2]
- เจ้าพระยารัตนาธิเบศร์ ตำแหน่งสมุหพระกลาโหม (พ.ศ. 2438)
เจ้าพระยารัตนาธิเบศร์เป็นข้าราชการตัวอย่างที่มีความดีพร้อม เป็นผู้ที่เสียสละเห็นแก่ความสงบความเจริญของบ้านเมือง จึงเป็นที่รักใคร่โปรดปรานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เห็นได้จากการดำรงตำแหน่งสูงสุดทางราชการได้ยาวนานตลอดจนสิ้นอายุขัย
ท่านถึงแก่อสัญกรรมด้วยโรคชราเมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2444 รวมอายุได้ 81 ปี ต่อมาเวลา 21.00 น. พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินจาก พระราชวังดุสิต ไปยังบ้านของเจ้าพระยารัตนาธิเบศร์เพื่อพระราชทานน้ำอาบศพ[3]
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
- พ.ศ. 2429 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นที่ 1 ปฐมจุลจอมเกล้า (ป.จ.) (ฝ่ายหน้า)
- พ.ศ. 2433 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นที่ 1 ประถมาภรณ์ช้างเผือก (ป.ช.)[4]
- พ.ศ. 2439 – เหรียญจักรพรรดิมาลา (ร.จ.พ.)[5]
อ้างอิง
- ↑ ดำรงราชานุภาพ, สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยา. "สาส์นสมเด็จ (2 มิถุนายน พ.ศ. 2478 ดร)". วชิรญาณ. สืบค้นเมื่อ 18 เมษายน 2565.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=
(help) - ↑ ข่าวราชการ (หน้า ๒๓๕)
- ↑ ข่าวอสัญกรรม
- ↑ เจ้าพระยาพลเทพกราบถวายบังคมลาและพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์
- ↑ เครื่องยศและเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่พระราชทาน