ข้ามไปเนื้อหา

ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เมดีชี"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Mda (คุย | ส่วนร่วม)
JasperBot (คุย | ส่วนร่วม)
แทนที่ {lang-??} ด้วย {langx|??}
 
(ไม่แสดง 47 รุ่นระหว่างกลางโดยผู้ใช้ 26 คน)
บรรทัด 1: บรรทัด 1:
{{Royal house|
{{ใช้ปีคศ|width=250px}}
[[ภาพ:Coat of Arms of Medici.svg|thumb|250px|ตราประจำตระกูลเมดิชิ]]
|surname = ตระกูลเมดีชี
|estate = =[[ดัชชีฟลอเรนซ์]], [[แกรนด์ดัชชีแห่งทัสกานี]], [[ดัชชีแห่งเออร์บิโน]], ดัชชีแห่งโรแวร์และดัชชีแห่งมอนเตเฟลโตร
|coat of arms = Augmented Arms of Medici.svg
|country =[[ดัชชีฟลอเรนซ์]], [[แกรนด์ดัชชีแห่งทัสกานี]], [[ดัชชีแห่งอูบิโน]], ดัชชีแห่งโรแวร์ และดัชชีแห่งมอนเตเฟลโตร
|titles =
* [[รายพระนามพระมเหสีในพระมหากษัตริย์ฝรั่งเศส|สมเด็จพระราชินีแห่งฝรั่งเศส]]
* [[ดยุกแห่งฟลอเรนซ์]]
* [[แกรนด์ดยุกแห่งทัสกานี]]
* [[ดยุกแห่งเออร์บิโน]]
* [[ดยุกแห่งเนมูร์]]
* ดยุกแห่งซีนา<ref>Booth, p 163</ref>
* ดยุกแห่งโรแวร์<ref name=Acton208>Acton, p 208</ref>
* ดยุกแห่งมอนเตเฟลโตร<ref name=Acton208/>
* พระสันตะปาปา
|founder =[[คอสโม เดอ เมดีชี]]
|final ruler =[[เกียน กาสตอน เดอ เมดีชี แกรนด์ดยุกแห่งทัสกานี]]
|current head =
|founding year =[[คริสต์ศตวรรษที่ 14]]
|dissolution = [[ค.ศ. 1743]]
|nationality =[[ทุสคัน]]
|cadet branches = เจ้าชายแห่งออตตาเวียโน
}}

<!-- กรุณาอย่าเติม สมเด็จพระสันตะปาปาปิอุสที่ 4 (Giovanni Angelo de Medici) คนละ Medici กัน -->
<!-- กรุณาอย่าเติม สมเด็จพระสันตะปาปาปิอุสที่ 4 (Giovanni Angelo de Medici) คนละ Medici กัน -->
'''ตระกูลเมดิชิ''' (ภาษาอังกฤษ: Medici) เป็นตระกูลที่มีอำนาจและอิทธิพลทางการเมืองของ[[ฟลอเรนซ์]]ระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 13 ถึงคริสต์ศตวรรษที่ 17 สมาชิกจากตระกูลนี้ 3 คนได้เป็น [[พระสันตะปาปา]] ([[สมเด็จพระสันตะปาปาลีโอที่ 10]], [[สมเด็จพระสันตะปาปาคลีเมนต์ที่ 7]], และ [[สมเด็จพระสันตะปาปาลีโอที่ 11]]) และนักปกครองของฟลอเรนซ์เองโดยเฉพาะ[[ลอเรนโซ เด เมดิชิ]] ก็เป็นผู้อุปถัมภ์งานชิ้นสำคัญๆ ในสมัย[[ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา|เรอเนซองส์]] ต่อมาตระกูลเมดิชิก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับ[[ราชวงศ์]]ของ[[ประเทศฝรั่งเศส|ฝรั่งเศส]]และ[[อังกฤษ]]
'''ตระกูลเมดีชี''' ({{langx|en|Medici}}) เป็นตระกูลที่มีอำนาจและอิทธิพลทางการเมืองของ[[ฟลอเรนซ์]]ระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 13 ถึงคริสต์ศตวรรษที่ 17 สมาชิกจากตระกูลนี้ 3 คนได้เป็น [[พระสันตะปาปา]] ([[สมเด็จพระสันตะปาปาลีโอที่ 10]], [[สมเด็จพระสันตะปาปาคลีเมนต์ที่ 7]], และ [[สมเด็จพระสันตะปาปาลีโอที่ 11]]) และนักปกครองของฟลอเรนซ์เองโดยเฉพาะ[[โลเรนโซ เด เมดีชี]] ก็เป็นผู้อุปถัมภ์งานชิ้นสำคัญๆ ในสมัย[[ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา|เรอเนซองส์]] ต่อมาตระกูลเมดีชีก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับ[[ราชวงศ์]]ของ[[ประเทศฝรั่งเศส|ฝรั่งเศส]]และ[[อังกฤษ]]


ความมีอิทธิพลของตระกูลเมดิชิสามารถทำให้ฟลอเรนซ์กลายมามีบทบาทสำคัญต่อความรุ่งเรืองของ[[ศิลปะ]]และ[[สถาปัตยกรรม]] ตระกูลเมดิชิและตระกูลสำคัญอื่นๆของ[[ประเทศอิตาลี]]ในสมัยนั้นเช่น [[ตระกูลวิสคอนติ]] (Visconti) [[ตระกูลสฟอร์เซ]] (Sforza) ตระกูลต่างๆ จาก[[มิลาน]] [[ตระกูลเอสเต]]แห่งเฟอร์รารา (Este of Ferrara) [[ตระกูลกอนซากา]]จาก[[มานตัว]] (Gonzaga of Mantua) และตระกูลอื่นๆ ต่างก็มีส่วนสำคัญในความเจริญของ[[ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา|ศิลปะเรอเนซองส์]] และ [[สถาปัตยกรรมฟื้นฟูศิลปวิทยา|สถาปัตยกรรมเรอเนซองส์]]
ความมีอิทธิพลของตระกูลเมดีชีสามารถทำให้ฟลอเรนซ์กลายมามีบทบาทสำคัญต่อความรุ่งเรืองของ[[ศิลปะ]]และ[[สถาปัตยกรรม]] ตระกูลเมดีชีและตระกูลสำคัญอื่นๆของ[[ประเทศอิตาลี]]ในสมัยนั้นเช่น [[ตระกูลวิสคอนติ]] (Visconti) [[ตระกูลสฟอร์เซ]] (Sforza) ตระกูลต่างๆ จาก[[มิลาน]] [[ตระกูลเอสเต]]แห่งเฟอร์รารา (Este of Ferrara) [[ตระกูลกอนซากา]]จาก[[มานตัว]] (Gonzaga of Mantua) และตระกูลอื่นๆ ต่างก็มีส่วนสำคัญในความเจริญของ[[ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา|ศิลปะเรอเนซองส์]] และ [[สถาปัตยกรรมฟื้นฟูศิลปวิทยา|สถาปัตยกรรมเรอเนซองส์]]


[[ธนาคารเมดิชิ]]เป็นธนาคารที่มั่งคั่งที่สุดใน[[ทวีปยุโรป]]และกล่าวกันว่าตระกูลเมดิชิเป็นตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในยุโรปสมัยนั้น ซึ่งทำให้สามารถสร้างอำนาจทางการเมืองโดยเริ่มจากฟลอเรนซ์และอิตาลีจนในที่สุดก็ขยายไปทั่วยุโรป สิ่งที่ตระกูลเมดิชิเป็นต้นตำรับทางการบัญชีคือการปรับปรุงวิธีทำบัญชีโดยการลงหลักฐานที่สามารถทำให้ติดตามเงินเข้าเงินออกได้ง่ายขึ้น (double-entry bookkeeping system)
[[ธนาคารเมดีชี]]เป็นธนาคารที่มั่งคั่งที่สุดใน[[ทวีปยุโรป]]และกล่าวกันว่าตระกูลเมดีชีเป็นตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในยุโรปสมัยนั้น ซึ่งทำให้สามารถสร้างอำนาจทางการเมืองโดยเริ่มจากฟลอเรนซ์และอิตาลีจนในที่สุดก็ขยายไปทั่วยุโรป สิ่งที่ตระกูลเมดีชีเป็นต้นตำรับทางการบัญชีคือการปรับปรุงวิธีทำบัญชีโดยการลงหลักฐานที่สามารถทำให้ติดตามเงินเข้าเงินออกได้ง่ายขึ้น (double-entry bookkeeping system)


==ประวัติ==
== ประวัติ ==
ตระกูลเมดีชีเดิมมาจากชาวกสิกรในบริเวณมูเกลโล (Mugello) ทางตอนเหนือของฟลอเรนซ์ หลักฐานครั้งแรกที่กล่าวถึงครอบครัวนี้ก็มาจากเอกสารที่เขียนเมื่อปี ค.ศ. 1260
[[ภาพ:Sandro Botticelli 056.jpg|thumb|250px|ครอบครัวเปียโร ดิ โคสิโม เดอ เมดิชิ (Piero di Cosimo de Medici) โดย [[ซานโดร บอตติเซลลี]] ในภาพ “Madonna del Magnificat”]]
ตระกูลเมดิชิเดิมมาจากชาวกสิกรในบริเวณมูเกลโล (Mugello) ทางตอนเหนือของฟลอเรนซ์ หลักฐานครั้งแรกที่กล่าวถึงครอบครัวนี้ก็มาจากเอกสารที่เขียนเมื่อปี ค.ศ. 1260


ที่มาของชื่อ “เมดิชิ” ไม่เป็นที่ทราบแน่นอนแต่คำว่า “เมดิชิ” ในภาษาอิตาลีหมายถึง “หมอยา” สมาชิกตระกูลเมดิชิเริ่มมามีตำแหน่งสำคัญๆ เมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 14 ในกิจการค้าขายขนแกะ โดยเฉพาะกับ[[ประเทศฝรั่งเศส]] และ [[ประเทศสเปน]] ถึงแม้ว่าจะเริ่มมีชื่อเสียงทางการปกครองในบางเมืองแต่ก็ยังไม่มีความสำคัญมากเท่าตระกูลใหญ่ๆ เช่น[[ตระกูลอัลบิซซิ]] (Albizzi) หรือ [[ตระกูลสโตรซซิ]] (Strozzi) สมาชิกที่สำคัญคนหนึ่งที่น่าจะกล่าวถึงในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 14 ก็คือ[[ซาลเวสโตร เดอ เมดิชิ]] (Salvestro de Medici) ผู้เป็นวาทกรของ สมาคมพ่อค้าขนแกะระหว่าง[[การปฏิวัติ]]ชิออมปิ (Ciompi) จนถูกเนรเทศเมื่อปี ค.ศ. 1382 การที่ตระกูลเมดิชิเข้าไปมีส่วนในการปฏิวัติอึกครั้งหนึ่งเมื่อปีค.ศ. 1400 ทำให้ทั้งตระกูลถูกห้ามเข้ามาเกี่ยวข้องกับการเมืองและการปกครองของเมืองฟลอเรนซ์เป็นเวลาราว 20 ปี ยกเว้นเมื่ออาเวราร์โด (Averardo (Bicci) de Medici) ก่อตั้งวงศ์เมดิชิ (Medici dynasty)
ที่มาของชื่อ “เมดีชี” ไม่เป็นที่ทราบแน่นอนแต่คำว่า “เมดีชี” ในภาษาอิตาลีหมายถึง “หมอยา” สมาชิกตระกูลเมดีชีเริ่มมามีตำแหน่งสำคัญๆ เมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 14 ในกิจการค้าขายขนแกะ โดยเฉพาะกับ[[ประเทศฝรั่งเศส]] และ [[ประเทศสเปน]] ถึงแม้ว่าจะเริ่มมีชื่อเสียงทางการปกครองในบางเมืองแต่ก็ยังไม่มีความสำคัญมากเท่าตระกูลใหญ่ๆ เช่น[[ตระกูลอัลบิซซิ]] (Albizzi) หรือ [[ตระกูลสโตรซซิ]] (Strozzi) สมาชิกที่สำคัญคนหนึ่งที่น่าจะกล่าวถึงในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 14 ก็คือ[[ซาลเวสโตร เดอ เมดีชี]] (Salvestro de Medici) ผู้เป็นวาทกรของ สมาคมพ่อค้าขนแกะระหว่าง[[การปฏิวัติ]]ชิออมปิ (Ciompi) จนถูกเนรเทศเมื่อปี ค.ศ. 1382 การที่ตระกูลเมดีชีเข้าไปมีส่วนในการปฏิวัติอีกครั้งหนึ่งเมื่อปีค.ศ. 1400 ทำให้ทั้งตระกูลถูกห้ามเข้ามาเกี่ยวข้องกับการเมืองและการปกครองของเมืองฟลอเรนซ์เป็นเวลาราว 20 ปี ยกเว้นเมื่ออาเวราร์โด (Averardo (Bicci) de Medici) ก่อตั้งวงศ์เมดีชี (Medici dynasty)


[[จิโอวานนิ ดิ บิชชิ เดอ เมดิชิ|จิโอวานนิ ดิ บิชชิ]] (Giovanni di Bicci de Medici) ผู้เป็นลูกชายของอาเวราร์โด สร้างความร่ำรวยให้แก่ครอบครัวเมดิชิเพิ่มขึ้นอีกโดยการก่อตั้ง “[[ธนาคารเมดิชิ]]” และกลายเป็นผู้ที่ร่ำรวยที่สุดในฟลอเรนซ์ ถึงแม้ว่าจิโอวานนี ดิ บิชชิจะไม่มีตำแหน่งทางการเมืองแต่ก็ได้รับการสนับสนุนเมื่อจิโอวานนิเสนอวิธีเก็บภาษีแบบสัดส่วน (proportional taxing system) [[โคสิโม เดอ เมดิชิ]] หรือที่รู้จักกันในนาม “โคสิโมผู้อาวุโส” ผู้เป็นลูกชายของจิโอวานนิดำเนินกิจการต่อมาเมื่อปี ค.ศ. 1434 ในฐานะ “gran maestro” หรือ “grand master” ในภาษาอังกฤษและได้รับตำแหน่งประมุขของรัฐฟลอเรนซ์อย่างไม่เป็นทางการ
[[จิโอวานนิ ดิ บิชชิ เดอ เมดีชี|จิโอวานนิ ดิ บิชชิ]] (Giovanni di Bicci de Medici) ผู้เป็นลูกชายของอาเวราร์โด สร้างความร่ำรวยให้แก่ครอบครัวเมดีชีเพิ่มขึ้นอีกโดยการก่อตั้ง “[[ธนาคารเมดีชี]]” และกลายเป็นผู้ที่ร่ำรวยที่สุดในฟลอเรนซ์ ถึงแม้ว่าจิโอวานนี ดิ บิชชิจะไม่มีตำแหน่งทางการเมืองแต่ก็ได้รับการสนับสนุนเมื่อจิโอวานนิเสนอวิธีเก็บภาษีแบบสัดส่วน (proportional taxing system) [[โคสิโม เดอ เมดีชี]] หรือที่รู้จักกันในนาม “โคสิโมผู้อาวุโส” ผู้เป็นลูกชายของจิโอวานนิดำเนินกิจการต่อมาเมื่อปี ค.ศ. 1434 ในฐานะ “gran maestro” หรือ “grand master” ในภาษาอังกฤษและได้รับตำแหน่งประมุขของรัฐฟลอเรนซ์อย่างไม่เป็นทางการ


ตระกูลเมดิชิ สาย “อาวุโส” ที่สืบสายมาจาก “โคสิโมผู้อาวุโส” ปกครองรัฐฟลอเรนซ์มาจนเมื่อ [[อเลสซานโดร เดอ เมดิชิ]]ผู้เป็นดยุคคนแรกของฟลอเรนซ์ถูกลอบสังหารเมื่อปี ค.ศ. 1537 การปกครองของตระกูลเมดิชิถูกขัดจังหวะลงสองหน (ระหว่างปี ค.ศ. 1494 ถึงปี ค.ศ. 1512 และ ระหว่างปี ค.ศ. 1527 ถึงปี ค.ศ. 1530) เมื่อมีการปฏิวัติจากประชาชนขับตระกูลเมดิชิออกจากเมือง
ตระกูลเมดีชี สาย “อาวุโส” ที่สืบสายมาจาก “โคสิโมผู้อาวุโส” ปกครองรัฐฟลอเรนซ์มาจนเมื่อ [[อเลสซานโดร เดอ เมดีชี]]ผู้เป็นดยุกคนแรกของฟลอเรนซ์ถูกลอบสังหารเมื่อปี ค.ศ. 1537 การปกครองของตระกูลเมดีชีถูกขัดจังหวะลงสองหน (ระหว่างปี ค.ศ. 1494 ถึงปี ค.ศ. 1512 และ ระหว่างปี ค.ศ. 1527 ถึงปี ค.ศ. 1530) เมื่อมีการปฏิวัติจากประชาชนขับตระกูลเมดีชีออกจากเมือง


อำนาจของตระกูลเมดิชิจึงผ่านไปยังสาย “เล็ก” ที่สืบสายมาจาก[[ลอเรนโซ ดิ โคสิโม เดอ เมดิชิ]] หรือที่รู้จักกันในนาม “ลอเร็นโซผู้พ่อ” ผู้เป็นลูกคนเล็กของจิโอวานนี ดิ บิชชิ โดยเริ่มจาก[[โคสิโมที่ 1 เดอ เมดิชิ]] หรือ “Cosimo the Great” การขยายอำนาจของตระกูลเมดิชิบรรยายไว้อย่างละเอียดโดยเบเนเด็ตโต เดอื (Benedetto Dei)
อำนาจของตระกูลเมดีชีจึงผ่านไปยังสาย “เล็ก” ที่สืบสายมาจาก[[ลอเรนโซ ดิ โคสิโม เดอ เมดีชี]] หรือที่รู้จักกันในนาม “ลอเร็นโซผู้พ่อ” ผู้เป็นลูกคนเล็กของจิโอวานนี ดิ บิชชิ โดยเริ่มจาก[[โคสิโมที่ 1 เดอ เมดีชี]] หรือ “Cosimo the Great” การขยายอำนาจของตระกูลเมดีชีบรรยายไว้อย่างละเอียดโดยเบเนเด็ตโต เดอี (Benedetto Dei)


โคสิโมที่ 1 และพ่อเริ่มวางรากฐานตระกูลเมดิชิในทางการธนาคาร การผลิต (รวมทั้งการให้สัมปทานทางธุรกิจ) ทางฐานะทางการเงิน ทางศิลปะ ทางการอุปถัมภ์ศิลปิน และทางศาสนาเพื่อที่จะให้ตระกูลนี้มีอำนาจเป็นเวลานานหลายชั่วคนต่อมา ว่ากันว่าในสมัยของโคสิโม ครึ่งหนี่งของประชากรชาวฟลอเรนซ์เองก็ทำงานให้กับตระกูลเมดิชิในกิจการอย่างใดอย่างหนึ่ง
โคสิโมที่ 1 และพ่อเริ่มวางรากฐานตระกูลเมดีชีในทางการธนาคาร การผลิต (รวมทั้งการให้สัมปทานทางธุรกิจ) ทางฐานะทางการเงิน ทางศิลปะ ทางการอุปถัมภ์ศิลปิน และทางศาสนาเพื่อที่จะให้ตระกูลนี้มีอำนาจเป็นเวลานานหลายชั่วคนต่อมา ว่ากันว่าในสมัยของโคสิโม ครึ่งหนี่งของประชากรชาวฟลอเรนซ์เองก็ทำงานให้กับตระกูลเมดีชีในกิจการอย่างใดอย่างหนึ่ง


==คริสต์ศตวรรษที่ 15==
== คริสต์ศตวรรษที่ 15 ==
[[ไฟล์:Sandro Botticelli 056.jpg|thumb|250px|ครอบครัวเปียโร ดิ โคสิโม เดอ เมดีชี (Piero di Cosimo de Medici) โดย [[ซานโดร บอตติเซลลี]] ในภาพ “Madonna del Magnificat”]]
[[ภาพ:Lorenzo de' Medici-ritratto.jpg|thumb|250px|ภาพเหมือน ลอเรนโซ เดอ เมดิชิ โดย จิโรลาโม มาชิเอตตี (Girolamo Macchietti)]]
[[ไฟล์:Lorenzo de' Medici-ritratto.jpg|thumb|250px|ภาพเหมือน ลอเรนโซ เดอ เมดีชี โดย จิโรลาโม มาชิเอตตี (Girolamo Macchietti)]]
[[ภาพ:Gozzoli magi.jpg|250px|thumb|ภาพสมาชิกตระกูลเมดิชิภายในขบวนแมไจ 3 คนที่เดินทางมาถวายของขวัญให้พระเยซูเมื่อทรงสมภพ โดยมีฉากหลังเป็นทิวทัศน์ของแคว้นทัสเคนี เป็น[[จิตรกรรมฝาผนัง]]โดย[[เบนนอซโซ กอซโซลิ]] ปี ค. ศ. 1459]]
[[ไฟล์:Gozzoli magi.jpg|250px|thumb|ภาพสมาชิกตระกูลเมดีชีภายในขบวนแมไจ 3 คนที่เดินทางมาถวายของขวัญให้พระเยซูเมื่อทรงสมภพ โดยมีฉากหลังเป็นทิวทัศน์ของแคว้นทัสเคนี เป็น[[จิตรกรรมฝาผนัง]]โดย[[เบนนอซโซ กอซโซลิ]] ปี ค. ศ. 1459]]
เปียโร ดิ โคสิโม เดอ เมดิชิ (Piero di Cosimo de Medici) (ค.ศ. 1416-ค.ศ. 1469) ผู้เป็นลูกชายของโคสิโมที่ 1 มีอำนาจอยู่เพียง 5 ปี (ค.ศ. 1464-ค.ศ. 1469) จน[[ลอเรนโซ เดอ เมดิชิ]] ผู้เป็นหลานปู่ที่จักกันในนาม “Lorenzo the Magnificent”--ลอเร็นโซผู้ปรีชา (ค.ศ. 1449-ค.ศ. 1492) มาดำเนินกิจการและการปกครองอย่างมีความสามารถต่อ แต่ความจริงแล้วตำแหน่ง “the Magnificent” เป็นตำแหน่งท้ายชื่อที่ใช้กันบ่อยและมิได้มีความหมายสมกับความหมายของคำ
เปียโร ดิ โคสิโม เดอ เมดีชี (Piero di Cosimo de Medici) (ค.ศ. 1416-ค.ศ. 1469) ผู้เป็นลูกชายของโคสิโมที่ 1 มีอำนาจอยู่เพียง 5 ปี (ค.ศ. 1464-ค.ศ. 1469) จน[[ลอเรนโซ เดอ เมดีชี]] ผู้เป็นหลานปู่ที่จักกันในนาม “Lorenzo the Magnificent”--ลอเร็นโซผู้ปรีชา (ค.ศ. 1449-ค.ศ. 1492) มาดำเนินกิจการและการปกครองอย่างมีความสามารถต่อ แต่ความจริงแล้วตำแหน่ง “the Magnificent” เป็นตำแหน่งท้ายชื่อที่ใช้กันบ่อยและมิได้มีความหมายสมกับความหมายของคำ


ลอเร็นโซ เดอ เมดิชิก็เช่นเดียวกับสมาชิกตระกูลเมดิชิคนอื่นที่พยายามรักษาความสำคัญของตระกูลไว้โดยการวางอนาคตและอาชีพให้ลูกๆ ลอเร็นโซสอนให้ เปียโรที่ 2 มีความแข็งแกร่ง ให้จิโอวานนี เป็นผู้คงแก่เรียน และจุยเลียโน (คนละคนกัยจุยเลียโนผู้เป็นพี่ของลอเร็นโซ) เป็นคนดี จุยเลียโนผู้เป็นพี่ของลอเร็นโซถูกลอบสังหารในวัดเมื่อวัน[[อีสเตอร์]]เมื่อปีค.ศ. 1478 ลอเร็นโซจึงรับเลี้ยง จุยลิโอ ลูกชายของจุยเลียโนเป็นบุตรบุญธรรม ผู้ซึ่งต่อมาได้เป็น[[สมเด็จพระสันตะปาปาคลีเมนต์ที่ 7]] (ค.ศ. 1478-ค.ศ. 1535) เปียโรที่ 2 ผู้เป็นลูกของลอเร็นโซ เดอ เมดิชิเองได้เป็นประมุขของฟลอเรนซ์ต่อมาหลังจากที่ลอเร็นโซเสียชีวิตแต่เปียโรไม่มีความสามารถเหมือนพ่อ จึงมีส่วนที่ทำให้ครอบครัวเมดิชิถูกไล่ออกจากเมือง
ลอเร็นโซ เดอ เมดีชีก็เช่นเดียวกับสมาชิกตระกูลเมดีชีคนอื่นที่พยายามรักษาความสำคัญของตระกูลไว้โดยการวางอนาคตและอาชีพให้ลูกๆ ลอเร็นโซสอนให้ เปียโรที่ 2 มีความแข็งแกร่ง ให้จิโอวานนี เป็นผู้คงแก่เรียน และจุยเลียโน (คนละคนกัยจุยเลียโนผู้เป็นพี่ของลอเร็นโซ) เป็นคนดี จุยเลียโนผู้เป็นพี่ของลอเร็นโซถูกลอบสังหารในวัดเมื่อวัน[[อีสเตอร์]]เมื่อปีค.ศ. 1478 ลอเร็นโซจึงรับเลี้ยง จุยลิโอ ลูกชายของจุยเลียโนเป็นบุตรบุญธรรม ผู้ซึ่งต่อมาได้เป็น[[สมเด็จพระสันตะปาปาคลีเมนต์ที่ 7]] (ค.ศ. 1478-ค.ศ. 1535) เปียโรที่ 2 ผู้เป็นลูกของลอเร็นโซ เดอ เมดีชีเองได้เป็นประมุขของฟลอเรนซ์ต่อมาหลังจากที่ลอเร็นโซเสียชีวิตแต่เปียโรไม่มีความสามารถเหมือนพ่อ จึงมีส่วนที่ทำให้ครอบครัวเมดีชีถูกไล่ออกจากเมือง


ตระกูลเมดิชิมีอำนาจมากที่สุดในอิตาลีในสมัยนั้นจากการที่มีสมาชิกในตระกูลได้เป็นพระสันตะปาปาสององค์ในคริสต์ศตวรรษที่ 16 -- [[สมเด็จพระสันตะปาปาลีโอที่ 10]] และ [[สมเด็จพระสันตะปาปาคลีเมนต์ที่ 7]] -- ซึ่งทำให้เมดิชิกลายเป็นผู้ปกครอง[[โรม]] และ ฟลอเรนซ์โดยปริยาย พระสันตะปาปาทั้งสององค์เป็นผู้มีบทบาทในการอุปถัมภ์ศิลปะ ตระกูลเมดิชิอึกคนหนึ่งที่ได้เป็นพระสันตะปาคืออเลสซานโดร อ็อตาวิอาโน (Alessandro Ottaviano de' Medici) ผู้ต่อมาเป็น [[สมเด็จพระสันตะปาปาลีโอที่ 11]]
ตระกูลเมดีชีมีอำนาจมากที่สุดในอิตาลีในสมัยนั้นจากการที่มีสมาชิกในตระกูลได้เป็นพระสันตะปาปาสององค์ในคริสต์ศตวรรษที่ 16 -- [[สมเด็จพระสันตะปาปาลีโอที่ 10]] และ [[สมเด็จพระสันตะปาปาคลีเมนต์ที่ 7]] -- ซึ่งทำให้เมดีชีกลายเป็นผู้ปกครอง[[โรม]] และ ฟลอเรนซ์โดยปริยาย พระสันตะปาปาทั้งสององค์เป็นผู้มีบทบาทในการอุปถัมภ์ศิลปะ ตระกูลเมดีชีอีกคนหนึ่งที่ได้เป็นพระสันตะปาคืออเลสซานโดร อ็อตาวิอาโน (Alessandro Ottaviano de' Medici) ผู้ต่อมาเป็น [[สมเด็จพระสันตะปาปาลีโอที่ 11]]


สมาชิกที่สำคัญที่สุดในตระกูลเมดิชิ ในคริสต์ศตวรรษที่ 16 คือ [[โคสิโมที่ 1 เดอ เมดิชิ |โคสิโมที่ 1]] (Cosimo I de Medici) ผู้ที่กลับมาจากการปลดเกษียณที่มูเกลโลมาเป็นประมุขสูงสุดของ[[แคว้นทัสเคนี]] ได้ชัยชนะในการรบกับ[[เซียนนา|รัฐเซึยนนา]]เมืองคู่ปรับ และเป็นผู้ก่อตั้ง ราชอาณาจักรฟลอเรนซ์ (Grand Duchy of Tuscany)
สมาชิกที่สำคัญที่สุดในตระกูลเมดีชี ในคริสต์ศตวรรษที่ 16 คือ [[โคสิโมที่ 1 เดอ เมดีชี|โคสิโมที่ 1]] (Cosimo I de Medici) ผู้ที่กลับมาจากการปลดเกษียณที่มูเกลโลมาเป็นประมุขสูงสุดของ[[แคว้นทัสเคนี]] ได้ชัยชนะในการรบกับ[[เซียนนา|รัฐเซียนนา]]เมืองคู่ปรับ และเป็นผู้ก่อตั้ง ราชอาณาจักรฟลอเรนซ์ (Grand Duchy of Tuscany)


==ศิลปะและสถาปัตยกรรม==
== ศิลปะและสถาปัตยกรรม ==
สิ่งที่ประสพความสำเร็จมากที่สุดของตระกูลเมดิชิคือการอุปถัมภ์ศิลปะและสถาปัตยกรรมโดยเฉพาะในสมัยศิลปะและสถาปัตยกรรม[[สถาปัตยกรรมฟื้นฟูศิลปวิทยา|ฟื้นฟูศิลปวิทยา]] ตอนต้นและตอนที่รุ่งเรืองที่สุด งานศิลปะของฟลอเรนซ์เกือบทั้งหมดในสมัยนั้นเป็นอิทธิพลของครอบครัวนี้ ฉะนั้นงบประมาณที่ใช้ก็คงเป็นจำนวนมหาศาลเพราะศิลปินยุคนั้นจะทำงานก็ต่อเมื่อได้รับสัญญาและเงินล่วงหน้า
สิ่งที่ประสพความสำเร็จมากที่สุดของตระกูลเมดีชีคือการอุปถัมภ์ศิลปะและสถาปัตยกรรมโดยเฉพาะในสมัยศิลปะและสถาปัตยกรรม[[สถาปัตยกรรมฟื้นฟูศิลปวิทยา|ฟื้นฟูศิลปวิทยา]] ตอนต้นและตอนที่รุ่งเรืองที่สุด งานศิลปะของฟลอเรนซ์เกือบทั้งหมดในสมัยนั้นเป็นอิทธิพลของครอบครัวนี้ ฉะนั้นงบประมาณที่ใช้ก็คงเป็นจำนวนมหาศาลเพราะศิลปินยุคนั้นจะทำงานก็ต่อเมื่อได้รับสัญญาและเงินล่วงหน้า


จิโอวานนี ดิ บิชชิผู้เป็นผู้อุปถัมภ์ศิลปะคนแรกของตระกูลเมดิชิช่วย [[มาซาชิโอ]] (Masaccio) และจ้าง[[ฟีลิปโป บรูเนลเลสกี]]ให้บูรณะ[[บาซิลิกาซานโลเร็นโซ]]ที่ฟลอเรนซ์เมื่อปี ค. ศ. 1419 โคสิโม เดอ เมดิชิเป็นผู้อุปถัมภ์งานของ [[โดนาเทลโล]] และ [[ฟราแอนเจลิโค]] แต่ศิลปินคนที่สำคัญที่สุดที่เกี่ยวข้องกับตระกูลเมดิชิคือ[[มีเกลันเจโล บัวนาร์โรตี]] ซึ่งทำงานให้กับสมาชิกในตระกูลนี้หลายคนเริ่มด้วย ลอเร็นโซผู้ปรีชา ตั้งแต่ลอเร็นโซยังเป็นเด็ก ลอเร็นโซจ้าง[[เลโอนาร์โด ดา วินชี่]]ทั้งหมดด้วยกัน 7 ปี ลอเร็นโซเองก็เป็นนักกวีและแต่งเพลง ต่อมาสมเด็จพระสันตะปาปาลีโอที่ 10ก็อุปถัมภ์[[ราฟาเอล]] ผู้ที่เรียกกันว่า “Prince of Painters” สมเด็จพระสันตะปาปาคลีเมนต์ที่ 7 จ้างมีเกลันเจโลเขียนผนังหลังแท่นบูชาของ[[ชาเปลซิสติน]] ตระกูลเมดิชิเองก็มีส่วนสำคัญในการก่อสร้างชาเปลซิสทีนด้วย
จิโอวานนี ดิ บิชชิผู้เป็นผู้อุปถัมภ์ศิลปะคนแรกของตระกูลเมดีชีช่วย [[มาซาชิโอ]] (Masaccio) และจ้าง[[ฟีลิปโป บรูเนลเลสกี]]ให้บูรณะ[[บาซิลิกาซานโลเร็นโซ]]ที่ฟลอเรนซ์เมื่อปี ค. ศ. 1419 โคสิโม เดอ เมดีชีเป็นผู้อุปถัมภ์งานของ [[โดนาเทลโล]] และ [[ฟราแอนเจลิโค]] แต่ศิลปินคนที่สำคัญที่สุดที่เกี่ยวข้องกับตระกูลเมดีชีคือ[[มีเกลันเจโล บัวนาร์โรตี]] ซึ่งทำงานให้กับสมาชิกในตระกูลนี้หลายคนเริ่มด้วย ลอเร็นโซผู้ปรีชา ตั้งแต่ลอเร็นโซยังเป็นเด็ก ลอเร็นโซจ้าง[[เลโอนาร์โด ดา วินชี่]]ทั้งหมดด้วยกัน 7 ปี ลอเร็นโซเองก็เป็นนักกวีและแต่งเพลง ต่อมาสมเด็จพระสันตะปาปาลีโอที่ 10ก็อุปถัมภ์[[ราฟาเอล]] ผู้ที่เรียกกันว่า “Prince of Painters” สมเด็จพระสันตะปาปาคลีเมนต์ที่ 7 จ้างมีเกลันเจโลเขียนผนังหลังแท่นบูชาของ[[ชาเปลซิสติน]] ตระกูลเมดีชีเองก็มีส่วนสำคัญในการก่อสร้างชาเปลซิสทีนด้วย


เมื่อจิโรลาโม ซาโวนาโรลา (Girolamo Savonarola) ผู้เป็นพระ[[ลัทธิโดมินิคัน]]พยายาม[[การปฏิรูปศาสนาของนิกายโปรเตสแตนต์|ปฏิรูปศาสนา]]โดยการเทศนาให้ทำลายหนังสือและภาพเขียนที่ท่านเชื่อว่าขาดคุณธรรมโดยการเผาสิ่งของเหล่านี้ที่เรียกว่า “[[:en:Bonfire of the Vanities|Bonfire of the Vanities]]” เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ค. ศ. 1497 อึกปีหนึ่งต่อมา เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม ค. ศ. 1498 ซาโวนาโรลากับลูกศิษย์อึกสองคนก็ถูกแขวนคอที่จตุรัสกลางเมืองที่เดียวกับที่เป็นที่ใช้เผาหนังสือ
เมื่อจิโรลาโม ซาโวนาโรลา (Girolamo Savonarola) ผู้เป็นพระ[[ลัทธิโดมินิคัน]]พยายาม[[การปฏิรูปศาสนาของนิกายโปรเตสแตนต์|ปฏิรูปศาสนา]]โดยการเทศนาให้ทำลายหนังสือและภาพเขียนที่ท่านเชื่อว่าขาดคุณธรรมโดยการเผาสิ่งของเหล่านี้ที่เรียกว่า “[[พระเพลิงเผากิเลส]]” เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ค. ศ. 1497 อึกปีหนึ่งต่อมา เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม ค. ศ. 1498 ซาโวนาโรลากับลูกศิษย์อึกสองคนก็ถูกแขวนคอที่จตุรัสกลางเมืองที่เดียวกับที่เป็นที่ใช้เผาหนังสือ


นอกจากจะให้การสนับสนุนทางศิลปะและสถาปัตยกรรมแล้วตระกูลเมดิชิยังเป็นนักสะสมอีกด้วย ปัจจุบันเราจะเห็นสิ่งที่ตระกูลเมดิชิสะสมไว้ได้ที่[[หอศิลป์อุฟฟิซิ]]ในเมือง[[ฟลอเรนซ์]]
นอกจากจะให้การสนับสนุนทางศิลปะและสถาปัตยกรรมแล้วตระกูลเมดีชียังเป็นนักสะสมอีกด้วย ปัจจุบันเราจะเห็นสิ่งที่ตระกูลเมดีชีสะสมไว้ได้ที่[[หอศิลป์อุฟฟิซิ]]ในเมือง[[ฟลอเรนซ์]]


ทางสถาปัตยกรรมตระกูลเมดิชิมีอิทธิพลต่อ[[สิ่งก่อสร้าง]]หลายแห่งในฟลอเรนซ์รวมทั้งพิพิธภัณฑ์อุฟฟิซิ, [[วังพิตติ]], สวนโบโบลิ (Boboli Gardens), ป้อมเบลเวเดเร (Belvedere) และวังเมดิชิเอง
ทางสถาปัตยกรรมตระกูลเมดีชีมีอิทธิพลต่อ[[สิ่งก่อสร้าง]]หลายแห่งในฟลอเรนซ์รวมทั้งพิพิธภัณฑ์อุฟฟิซิ, [[วังพิตติ]], สวนโบโบลิ (Boboli Gardens), ป้อมเบลเวเดเร (Belvedere) และวังเมดีชีเอง


ถึงแม้ว่าจะไม่มีใครในตระกูลเมดิชิที่เป็นนักวิทยาศาสตร์แต่ตระกูลเมดิชิมีชื่อเสียงในการเป็นผู้อุปถัมภ์นักดาราศาสตร์คนสำคัญคือ [[กาลิเลโอ กาลิเลอี]]ผู้เป็นครูลูกหลานในตระกูลเมดิชิหลายคน แต่มาหยุดการสนับสนุนเอาในสมัยเฟอร์ดินานโดที่ 2 (Ferdinando II de Medici) เมื่อกาลิเลโอถูกกล่าวหาโดยศาลศาสนาโรมัน (Roman Inquisition) ว่าคำสอนของกาลิเลโอเป็นคำสอนนอกรีต แต่ตระกูลเมดิชิก็ปกป้องกาลิเลโออยู่หลายปีจนกาลิเลโอตั้งชื่อพระจันทร์สี่ดวงของ[[ดาวพฤหัสบดี]]ตามชื่อของลูกหลานตระกูลเมดิชิ
ถึงแม้ว่าจะไม่มีใครในตระกูลเมดีชีที่เป็นนักวิทยาศาสตร์แต่ตระกูลเมดีชีมีชื่อเสียงในการเป็นผู้อุปถัมภ์นักดาราศาสตร์คนสำคัญคือ [[กาลิเลโอ กาลิเลอี]]ผู้เป็นครูลูกหลานในตระกูลเมดีชีหลายคน แต่มาหยุดการสนับสนุนเอาในสมัยเฟอร์ดินานโดที่ 2 (Ferdinando II de Medici) เมื่อกาลิเลโอถูกกล่าวหาโดยศาลศาสนาโรมัน (Roman Inquisition) ว่าคำสอนของกาลิเลโอเป็นคำสอนนอกรีต แต่ตระกูลเมดีชีก็ปกป้องกาลิเลโออยู่หลายปีจนกาลิเลโอตั้งชื่อพระจันทร์สี่ดวงของ[[ดาวพฤหัสบดี]]ตามชื่อของลูกหลานตระกูลเมดีชี


== ข้อมูลเพิ่มเติม ==
'''เกร็ดย่อย'''
* [[เอเลเนอร์แห่งโทเลโด]]เจ้าหญิงจากสเปนชายาของ [[โคสิโมที่ 1 เดอ เมดิชิ |โคสิโมที่ 1]] ซื้อ[[พาลัซโซพิตติ]] จาก บูนาคอร์โซ พิตติ เมื่อปี ค. ศ. 1550
* [[เอเลเนอร์แห่งโทเลโด]]เจ้าหญิงจากสเปนชายาของ [[โคสิโมที่ 1 เดอ เมดีชี|โคสิโมที่ 1]] ซื้อ[[พาลัซโซพิตติ]] จาก บูนาคอร์โซ พิตติ เมื่อปี ค. ศ. 1550
* โคสิโมที่ 1อุปถัมภ์ [[จอร์โจ วาซารี]] ผู้สร้าง[[หอศิลป์อุฟฟิซิ]] และก่อตั้งสถาบันการออกแบบ (Accademia di Belle Arti Firenze) เมื่อปี ค. ศ. 1562
* โคสิโมที่ 1อุปถัมภ์ [[จอร์โจ วาซารี]] ผู้สร้าง[[หอศิลป์อุฟฟิซิ]] และก่อตั้งสถาบันการออกแบบ (Accademia di Belle Arti Firenze) เมื่อปี ค. ศ. 1562
* [[มารี เดอ เมดิชิ]] (Marie de' Medici) พระราชินีม่ายของ[[พระเจ้าเฮนรีที่ 4 แห่งฝรั่งเศส]] และพระราชมารดาของ [[พระเจ้าหลุยส์ที่ 13 แห่งฝรั่งเศส]] เป็นแบบให้วาดรูปต่อเนื่องที่เรียกว่า “Marie de' Medici cycle” วาดเพื่อตกแต่งพระราชวังลักเซมเบิร์ก (Luxembourg Palace) โดย[[ปีเตอร์ พอล รูเบนส์]]ผู้เป็นจิตรกรประจำราชสำนักระหว่างปี ค. ศ. 1622 ถึงปี ค. ศ. 1623
* [[มารี เดอ เมดีซิส สมเด็จพระราชินีแห่งฝรั่งเศส|มารี เดอ เมดีชี]] (Marie de' Medici) พระราชินีม่ายของ[[พระเจ้าเฮนรีที่ 4 แห่งฝรั่งเศส]] และพระราชมารดาของ [[พระเจ้าหลุยส์ที่ 13 แห่งฝรั่งเศส]] เป็นแบบให้วาดรูปต่อเนื่องที่เรียกว่า “Marie de' Medici cycle” วาดเพื่อตกแต่งพระราชวังลักเซมเบิร์ก (Luxembourg Palace) โดย[[ปีเตอร์ พอล รูเบนส์]]ผู้เป็นจิตรกรประจำราชสำนักระหว่างปี ค. ศ. 1622 ถึงปี ค. ศ. 1623


==คนสำคัญในตระกูลเมดิชิ==
== คนสำคัญในตระกูลเมดีชี ==
<!-- กรุณาอย่าเติม สมเด็จพระสันตะปาปาปิอุสที่ 4 (Giovanni Angelo de Medici) คนละ Medici กัน -->
<!-- กรุณาอย่าเติม สมเด็จพระสันตะปาปาปิอุสที่ 4 (Giovanni Angelo de Medici) คนละ Medici กัน -->
[[ภาพ:Jacopo Pontormo 055.jpg|thumb|140px|โคสิโม เดอ เมดิชิ หรือ<br>“โคสิโมผู้พ่อ”]]
[[ไฟล์:Jacopo Pontormo 055.jpg|thumb|140px|โคสิโม เดอ เมดีชี หรือ<br />“โคสิโมผู้พ่อ”]]
[[ภาพ:Catherine de Medicis.jpg|thumb|140px|[[แคทเธอรีน เดอ เมดิชิ]] พระราชินีแห่งฝรั่งเศส]]
[[ไฟล์:Catherine de Medicis.jpg|thumb|140px|[[แคทเธอรีน เดอ เมดีชี]] พระราชินีแห่งฝรั่งเศส]]
[[ภาพ:Anna Maria Louise von Medici.jpg|thumb|140px|แอนนา มาเรีย หลุยซา เดอ เมดิชิ]]
[[ไฟล์:Anna Maria Luisa de' Medici (1667-1743).jpg|thumb|140px|แอนนา มาเรีย หลุยซา เดอ เมดีชี]]
* ซาลเวสโตร เดอ เมดิชิ (ค.ศ. 1331-ค.ศ. 1388) นำการปฏิวัติชิออมปิและมาเป็นผู้เผด็จการของฟลอเรนซ์ก่อนที่จะถูกเนรเทศเมื่อ ปี ค.ศ. 1382
* ซัลเวสโตร เดอ เมดีชี (ค.ศ. 1331-ค.ศ. 1388) นำการปฏิวัติชิออมปิและมาเป็นผู้เผด็จการของฟลอเรนซ์ก่อนที่จะถูกเนรเทศเมื่อ ปี ค.ศ. 1382
* จิโอวานนี ดิ บิชชิ (ค.ศ. 1360-ค.ศ. 1429) สร้างฐานะตระกูลเมดิชิจนเป็นตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในยุโรป
* จิโอวานนี ดิ บิชชิ (ค.ศ. 1360-ค.ศ. 1429) สร้างฐานะตระกูลเมดีชีจนเป็นตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในยุโรป
* โคสิโม เดอ เมดิชิ หรือ “โคสิโมผู้พ่อ” (ค.ศ. 1389-ค.ศ. 1464) วางรากฐานทางการเมือง
* [[โคสิโม เดอ เมดีชี]] หรือ “โคสิโมผู้พ่อ” (ค.ศ. 1389-ค.ศ. 1464) วางรากฐานทางการเมือง
* ลอเร็นโซผู้ปรีชา (ค.ศ. 1449-ค.ศ. 1492) ประมุขระหว่างยุคทองของ ฟลอเรนซ์ -- [[ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา]]
* ลอเร็นโซผู้ปรีชา (ค.ศ. 1449-ค.ศ. 1492) ประมุขระหว่างยุคทองของ ฟลอเรนซ์ -- [[ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา]]
* สมเด็จพระสันตะปาปาลีโอที่ 10 (ค.ศ. 1475-ค.ศ. 1523)
* [[สมเด็จพระสันตะปาปาลีโอที่ 10]] (ค.ศ. 1475-ค.ศ. 1523)
* สมเด็จพระสันตะปาปาคลีเมนต์ที่ 7 (ค.ศ. 1478-ค.ศ. 1534)
* [[สมเด็จพระสันตะปาปาคลีเมนต์ที่ 7]] (ค.ศ. 1478-ค.ศ. 1534)
* [[โคสิโมที่ 1 เดอ เมดิชิ |โคสิโมที่ 1]] หรือ “Cosimo I the Great” (ค.ศ. 1519-ค.ศ. 1574) เป็นดยุคคนแรกของแคว้นทัสเคนี
* [[โคสิโมที่ 1 เดอ เมดีชี|โคสิโมที่ 1]] หรือ “Cosimo I the Great” (ค.ศ. 1519-ค.ศ. 1574) เป็นดยุกคนแรกของแคว้นทัสเคนี
* [[แคทเธอรีน เดอ เมดิชิ]] (Catherine de Medici) (ค.ศ. 1519-ค.ศ. 1589) พระราชินีแห่งฝรั่งเศส
* [[แคทเธอรีน เดอ เมดีชี]] (Catherine de Medici) (ค.ศ. 1519-ค.ศ. 1589) พระราชินีแห่งฝรั่งเศส
* สมเด็จพระสันตะปาปาลีโอที่ 11 (ค.ศ. 1535-ค.ศ. 1605)
* [[สมเด็จพระสันตะปาปาลีโอที่ 11]] (ค.ศ. 1535-ค.ศ. 1605)
* [[มารี เดอ เมดิชิ สมเด็จพระราชินีนาถแห่งฝรั่งเศส|มาเรีย เดอ เมดิชิ]] (Maria de Medici) (ค.ศ. 1575-ค.ศ. 1642) พระราชินีแห่งฝรั่งเศส พระราชินีผู้สำเร็จราชการแห่งฝรั่งเศส
* [[มารี เดอ เมดีซิส สมเด็จพระราชินีแห่งฝรั่งเศส|มาเรีย เดอ เมดีชี]] (Maria de Medici) (ค.ศ. 1575-ค.ศ. 1642) พระราชินีแห่งฝรั่งเศส พระราชินีผู้สำเร็จราชการแห่งฝรั่งเศส
* [[อันนา มารีอา ลุยซา เดอ เมดีชี]] (Anna Maria Luisa de Medici) (ค.ศ. 1667-ค.ศ. 1743) ลูกของโคสิโมที่ 3 เป็นสมาชิกสำคัญของตระกูลเมดีชีคนสุดท้าย
โคสิโมที่3ดยุคแห่งทัศคานี
* [[แอนนา มาเรีย หลุยซา เดอ เมดิชิ]] (Anna Maria Luisa de Medici) (ค.ศ. 1667-ค.ศ. 1743) ลูกของโคสิโมที่ 3 เป็นสมาชิกสำคัญของตระกูลเมดิชิคนสุดท้าย


==อ้างอิง==
== อ้างอิง ==
{{รายการอ้างอิง}}
* Christopher Hibbert, ''The House of Medici: Its Rise and Fall'' (Morrow, 1975)
* Christopher Hibbert, ''The House of Medici: Its Rise and Fall'' (Morrow, 1975)
* Ferdinand Schevill, ''History of Florence: From the Founding of the City Through the Renaissance'' (Frederick Ungar, 1936)
* Ferdinand Schevill, ''History of Florence: From the Founding of the City Through the Renaissance'' (Frederick Ungar, 1936)
บรรทัด 80: บรรทัด 102:
* TLC/Peter Spry-Leverton.PSL, [http://www.prnewswire.com/cgi-bin/stories.pl?ACCT=104&STORY=/www/story/07-22-2004/0002216122&EDATE= ''The Mummy Detectives: The Crypt Of The Medici'']
* TLC/Peter Spry-Leverton.PSL, [http://www.prnewswire.com/cgi-bin/stories.pl?ACCT=104&STORY=/www/story/07-22-2004/0002216122&EDATE= ''The Mummy Detectives: The Crypt Of The Medici'']


== ข้อมูลเพิ่มเติม ==
== ข้อมูลเพิ่มเติม ==
* [[ลอเรนโซ เดอ เมดิชิ]]
* [[ลอเรนโซ เดอ เมดีชี]]
* [[แคทเธอรีน เดอ เมดิชิ]]
* [[แคทเธอรีน เดอ เมดีชี]]
* [[สถาปัตยกรรมฟื้นฟูศิลปวิทยา]]
* [[สถาปัตยกรรมฟื้นฟูศิลปวิทยา]]
* [[ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา|ศิลปะเรอเนซองส์]]
* [[ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา|ศิลปะเรอเนซองส์]]
* [[ฟลอเรนซ์]]
* [[ฟลอเรนซ์]]


== แหล่งข้อมูลอื่น==
== แหล่งข้อมูลอื่น ==
* [http://tuscany-toscana.info/history_of_the_medici_family.htm Outline of the history of the Medici family] (โครงร่างของประวัติตระกูลเมดิชิ)
* [http://tuscany-toscana.info/history_of_the_medici_family.htm Outline of the history of the Medici family] (โครงร่างของประวัติตระกูลเมดีชี)
* [http://tuscany-toscana.info/medici_manuscript.htm Genealogical manuscript on the house of the Medici] (สืบประวัติตระกูลเมดิชิ)
* [http://tuscany-toscana.info/medici_manuscript.htm Genealogical manuscript on the house of the Medici] (สืบประวัติตระกูลเมดีชี)
* [http://www.chh.de.free.fr/archiv/Sonstiges/medici.php Genealogical tree of the house of the Medici] (สืบประวัติตระกูลเมดิชิ) {{de icon}}
* [http://www.chh.de.free.fr/archiv/Sonstiges/medici.php Genealogical tree of the house of the Medici] (สืบประวัติตระกูลเมดีชี) {{de icon}}
* [http://www.pbs.org/empires/medici/renaissance/galileo.html Galileo and the Medici Family at PBS] (กาลิเลโอและตระกูลเมดิชิ)
* [http://www.pbs.org/empires/medici/renaissance/galileo.html Galileo and the Medici Family at PBS] (กาลิเลโอและตระกูลเมดีชี)
* [http://www.paradoxplace.com/Perspectives/Italian%20Images/Montages/Firenze/Medici%201.htm Adrian Fletcher’s Paradoxplace – 3 pages of Medici portraits and history] (ตระกูลเมดิชิและประวัติศาสตร์)
* [http://www.paradoxplace.com/Perspectives/Italian%20Images/Montages/Firenze/Medici%201.htm Adrian Fletcher’s Paradoxplace – 3 pages of Medici portraits and history] {{Webarchive|url=https://web.archive.org/web/20120616103542/http://www.paradoxplace.com/Perspectives/Italian%20Images/Montages/Firenze/Medici%201.htm |date=2012-06-16 }} (ตระกูลเมดีชีและประวัติศาสตร์)
* [http://www.medici.org Medici Archive Project] (โครงการเก็บหลักฐานตระกูลเมดิชิ)
* [http://www.medici.org Medici Archive Project] (โครงการเก็บหลักฐานตระกูลเมดีชี)
* [http://en.wikisource.org/wiki/Catholic_Encyclopedia_%281913%29/House_of_Medici ตระกูลเมดิชิ (Catholic Encyclopedia)]
* [http://en.wikisource.org/wiki/Catholic_Encyclopedia_%281913%29/House_of_Medici ตระกูลเมดีชี (Catholic Encyclopedia)]
{{commonscat|House of Medici|ตระกูลเมดิชิ}}
{{คอมมอนส์-หมวดหมู่|House of Medici|ตระกูลเมดีชี}}
{{ราชวงศ์ยุโรป}}


[[หมวดหมู่:ชาวอิตาลี]]
[[หมวดหมู่:ชาวอิตาลี]]
[[หมวดหมู่:นักการเมืองอิตาลี]]
[[หมวดหมู่:นักการเมืองอิตาลี]]
[[หมวดหมู่:ขุนนางอิตาลี]]
[[หมวดหมู่:ขุนนางอิตาลี]]
[[หมวดหมู่:ตระกูลเมดิชิ| ]]
[[หมวดหมู่:ตระกูลเมดีชี| ]]
{{เรียงลำดับ|มเดิชิ}}
{{ราชวงศ์ยุโรป}}

[[ar:ميديشي]]
[[be:Род Медычы]]
[[bg:Медичи]]
[[br:Medici]]
[[bs:Medici]]
[[ca:Mèdici]]
[[cs:Medicejové]]
[[da:Medici]]
[[de:Medici]]
[[el:Μέδικοι]]
[[en:House of Medici]]
[[eo:Mediĉoj]]
[[es:Médici]]
[[et:Medici]]
[[fa:خاندان مدیچی]]
[[fi:Medici]]
[[fr:Maison de Médicis]]
[[gl:Medici]]
[[he:בית מדיצ'י]]
[[hr:Medici]]
[[hu:Medici család]]
[[it:Medici]]
[[ja:メディチ家]]
[[ka:მედიჩი (დინასტია)]]
[[ko:메디치 가문]]
[[la:Gens Medicaea]]
[[nl:Medici]]
[[no:Medici]]
[[pl:Medyceusze]]
[[pt:Família Médici]]
[[ro:Familia Medici]]
[[ru:Медичи]]
[[simple:Medici]]
[[sr:Медичи]]
[[sv:Medici]]
[[sw:Medici]]
[[tr:Medici]]
[[vls:Medici]]
[[zh:梅第奇家族]]

รุ่นแก้ไขปัจจุบันเมื่อ 23:22, 10 พฤศจิกายน 2567

เมดีชี
พระราชอิสริยยศ
ปกครองดัชชีฟลอเรนซ์, แกรนด์ดัชชีแห่งทัสกานี, ดัชชีแห่งอูบิโน, ดัชชีแห่งโรแวร์ และดัชชีแห่งมอนเตเฟลโตร
เชื้อชาติทุสคัน
สาขาเจ้าชายแห่งออตตาเวียโน
ประมุขพระองค์แรกคอสโม เดอ เมดีชี
ประมุขพระองค์สุดท้ายเกียน กาสตอน เดอ เมดีชี แกรนด์ดยุกแห่งทัสกานี
สถาปนาคริสต์ศตวรรษที่ 14
สิ้นสุดค.ศ. 1743

ตระกูลเมดีชี (อังกฤษ: Medici) เป็นตระกูลที่มีอำนาจและอิทธิพลทางการเมืองของฟลอเรนซ์ระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 13 ถึงคริสต์ศตวรรษที่ 17 สมาชิกจากตระกูลนี้ 3 คนได้เป็น พระสันตะปาปา (สมเด็จพระสันตะปาปาลีโอที่ 10, สมเด็จพระสันตะปาปาคลีเมนต์ที่ 7, และ สมเด็จพระสันตะปาปาลีโอที่ 11) และนักปกครองของฟลอเรนซ์เองโดยเฉพาะโลเรนโซ เด เมดีชี ก็เป็นผู้อุปถัมภ์งานชิ้นสำคัญๆ ในสมัยเรอเนซองส์ ต่อมาตระกูลเมดีชีก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับราชวงศ์ของฝรั่งเศสและอังกฤษ

ความมีอิทธิพลของตระกูลเมดีชีสามารถทำให้ฟลอเรนซ์กลายมามีบทบาทสำคัญต่อความรุ่งเรืองของศิลปะและสถาปัตยกรรม ตระกูลเมดีชีและตระกูลสำคัญอื่นๆของประเทศอิตาลีในสมัยนั้นเช่น ตระกูลวิสคอนติ (Visconti) ตระกูลสฟอร์เซ (Sforza) ตระกูลต่างๆ จากมิลาน ตระกูลเอสเตแห่งเฟอร์รารา (Este of Ferrara) ตระกูลกอนซากาจากมานตัว (Gonzaga of Mantua) และตระกูลอื่นๆ ต่างก็มีส่วนสำคัญในความเจริญของศิลปะเรอเนซองส์ และ สถาปัตยกรรมเรอเนซองส์

ธนาคารเมดีชีเป็นธนาคารที่มั่งคั่งที่สุดในทวีปยุโรปและกล่าวกันว่าตระกูลเมดีชีเป็นตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในยุโรปสมัยนั้น ซึ่งทำให้สามารถสร้างอำนาจทางการเมืองโดยเริ่มจากฟลอเรนซ์และอิตาลีจนในที่สุดก็ขยายไปทั่วยุโรป สิ่งที่ตระกูลเมดีชีเป็นต้นตำรับทางการบัญชีคือการปรับปรุงวิธีทำบัญชีโดยการลงหลักฐานที่สามารถทำให้ติดตามเงินเข้าเงินออกได้ง่ายขึ้น (double-entry bookkeeping system)

ประวัติ

[แก้]

ตระกูลเมดีชีเดิมมาจากชาวกสิกรในบริเวณมูเกลโล (Mugello) ทางตอนเหนือของฟลอเรนซ์ หลักฐานครั้งแรกที่กล่าวถึงครอบครัวนี้ก็มาจากเอกสารที่เขียนเมื่อปี ค.ศ. 1260

ที่มาของชื่อ “เมดีชี” ไม่เป็นที่ทราบแน่นอนแต่คำว่า “เมดีชี” ในภาษาอิตาลีหมายถึง “หมอยา” สมาชิกตระกูลเมดีชีเริ่มมามีตำแหน่งสำคัญๆ เมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 14 ในกิจการค้าขายขนแกะ โดยเฉพาะกับประเทศฝรั่งเศส และ ประเทศสเปน ถึงแม้ว่าจะเริ่มมีชื่อเสียงทางการปกครองในบางเมืองแต่ก็ยังไม่มีความสำคัญมากเท่าตระกูลใหญ่ๆ เช่นตระกูลอัลบิซซิ (Albizzi) หรือ ตระกูลสโตรซซิ (Strozzi) สมาชิกที่สำคัญคนหนึ่งที่น่าจะกล่าวถึงในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 14 ก็คือซาลเวสโตร เดอ เมดีชี (Salvestro de Medici) ผู้เป็นวาทกรของ สมาคมพ่อค้าขนแกะระหว่างการปฏิวัติชิออมปิ (Ciompi) จนถูกเนรเทศเมื่อปี ค.ศ. 1382 การที่ตระกูลเมดีชีเข้าไปมีส่วนในการปฏิวัติอีกครั้งหนึ่งเมื่อปีค.ศ. 1400 ทำให้ทั้งตระกูลถูกห้ามเข้ามาเกี่ยวข้องกับการเมืองและการปกครองของเมืองฟลอเรนซ์เป็นเวลาราว 20 ปี ยกเว้นเมื่ออาเวราร์โด (Averardo (Bicci) de Medici) ก่อตั้งวงศ์เมดีชี (Medici dynasty)

จิโอวานนิ ดิ บิชชิ (Giovanni di Bicci de Medici) ผู้เป็นลูกชายของอาเวราร์โด สร้างความร่ำรวยให้แก่ครอบครัวเมดีชีเพิ่มขึ้นอีกโดยการก่อตั้ง “ธนาคารเมดีชี” และกลายเป็นผู้ที่ร่ำรวยที่สุดในฟลอเรนซ์ ถึงแม้ว่าจิโอวานนี ดิ บิชชิจะไม่มีตำแหน่งทางการเมืองแต่ก็ได้รับการสนับสนุนเมื่อจิโอวานนิเสนอวิธีเก็บภาษีแบบสัดส่วน (proportional taxing system) โคสิโม เดอ เมดีชี หรือที่รู้จักกันในนาม “โคสิโมผู้อาวุโส” ผู้เป็นลูกชายของจิโอวานนิดำเนินกิจการต่อมาเมื่อปี ค.ศ. 1434 ในฐานะ “gran maestro” หรือ “grand master” ในภาษาอังกฤษและได้รับตำแหน่งประมุขของรัฐฟลอเรนซ์อย่างไม่เป็นทางการ

ตระกูลเมดีชี สาย “อาวุโส” ที่สืบสายมาจาก “โคสิโมผู้อาวุโส” ปกครองรัฐฟลอเรนซ์มาจนเมื่อ อเลสซานโดร เดอ เมดีชีผู้เป็นดยุกคนแรกของฟลอเรนซ์ถูกลอบสังหารเมื่อปี ค.ศ. 1537 การปกครองของตระกูลเมดีชีถูกขัดจังหวะลงสองหน (ระหว่างปี ค.ศ. 1494 ถึงปี ค.ศ. 1512 และ ระหว่างปี ค.ศ. 1527 ถึงปี ค.ศ. 1530) เมื่อมีการปฏิวัติจากประชาชนขับตระกูลเมดีชีออกจากเมือง

อำนาจของตระกูลเมดีชีจึงผ่านไปยังสาย “เล็ก” ที่สืบสายมาจากลอเรนโซ ดิ โคสิโม เดอ เมดีชี หรือที่รู้จักกันในนาม “ลอเร็นโซผู้พ่อ” ผู้เป็นลูกคนเล็กของจิโอวานนี ดิ บิชชิ โดยเริ่มจากโคสิโมที่ 1 เดอ เมดีชี หรือ “Cosimo the Great” การขยายอำนาจของตระกูลเมดีชีบรรยายไว้อย่างละเอียดโดยเบเนเด็ตโต เดอี (Benedetto Dei)

โคสิโมที่ 1 และพ่อเริ่มวางรากฐานตระกูลเมดีชีในทางการธนาคาร การผลิต (รวมทั้งการให้สัมปทานทางธุรกิจ) ทางฐานะทางการเงิน ทางศิลปะ ทางการอุปถัมภ์ศิลปิน และทางศาสนาเพื่อที่จะให้ตระกูลนี้มีอำนาจเป็นเวลานานหลายชั่วคนต่อมา ว่ากันว่าในสมัยของโคสิโม ครึ่งหนี่งของประชากรชาวฟลอเรนซ์เองก็ทำงานให้กับตระกูลเมดีชีในกิจการอย่างใดอย่างหนึ่ง

คริสต์ศตวรรษที่ 15

[แก้]
ครอบครัวเปียโร ดิ โคสิโม เดอ เมดีชี (Piero di Cosimo de Medici) โดย ซานโดร บอตติเซลลี ในภาพ “Madonna del Magnificat”
ภาพเหมือน ลอเรนโซ เดอ เมดีชี โดย จิโรลาโม มาชิเอตตี (Girolamo Macchietti)
ภาพสมาชิกตระกูลเมดีชีภายในขบวนแมไจ 3 คนที่เดินทางมาถวายของขวัญให้พระเยซูเมื่อทรงสมภพ โดยมีฉากหลังเป็นทิวทัศน์ของแคว้นทัสเคนี เป็นจิตรกรรมฝาผนังโดยเบนนอซโซ กอซโซลิ ปี ค. ศ. 1459

เปียโร ดิ โคสิโม เดอ เมดีชี (Piero di Cosimo de Medici) (ค.ศ. 1416-ค.ศ. 1469) ผู้เป็นลูกชายของโคสิโมที่ 1 มีอำนาจอยู่เพียง 5 ปี (ค.ศ. 1464-ค.ศ. 1469) จนลอเรนโซ เดอ เมดีชี ผู้เป็นหลานปู่ที่จักกันในนาม “Lorenzo the Magnificent”--ลอเร็นโซผู้ปรีชา (ค.ศ. 1449-ค.ศ. 1492) มาดำเนินกิจการและการปกครองอย่างมีความสามารถต่อ แต่ความจริงแล้วตำแหน่ง “the Magnificent” เป็นตำแหน่งท้ายชื่อที่ใช้กันบ่อยและมิได้มีความหมายสมกับความหมายของคำ

ลอเร็นโซ เดอ เมดีชีก็เช่นเดียวกับสมาชิกตระกูลเมดีชีคนอื่นที่พยายามรักษาความสำคัญของตระกูลไว้โดยการวางอนาคตและอาชีพให้ลูกๆ ลอเร็นโซสอนให้ เปียโรที่ 2 มีความแข็งแกร่ง ให้จิโอวานนี เป็นผู้คงแก่เรียน และจุยเลียโน (คนละคนกัยจุยเลียโนผู้เป็นพี่ของลอเร็นโซ) เป็นคนดี จุยเลียโนผู้เป็นพี่ของลอเร็นโซถูกลอบสังหารในวัดเมื่อวันอีสเตอร์เมื่อปีค.ศ. 1478 ลอเร็นโซจึงรับเลี้ยง จุยลิโอ ลูกชายของจุยเลียโนเป็นบุตรบุญธรรม ผู้ซึ่งต่อมาได้เป็นสมเด็จพระสันตะปาปาคลีเมนต์ที่ 7 (ค.ศ. 1478-ค.ศ. 1535) เปียโรที่ 2 ผู้เป็นลูกของลอเร็นโซ เดอ เมดีชีเองได้เป็นประมุขของฟลอเรนซ์ต่อมาหลังจากที่ลอเร็นโซเสียชีวิตแต่เปียโรไม่มีความสามารถเหมือนพ่อ จึงมีส่วนที่ทำให้ครอบครัวเมดีชีถูกไล่ออกจากเมือง

ตระกูลเมดีชีมีอำนาจมากที่สุดในอิตาลีในสมัยนั้นจากการที่มีสมาชิกในตระกูลได้เป็นพระสันตะปาปาสององค์ในคริสต์ศตวรรษที่ 16 -- สมเด็จพระสันตะปาปาลีโอที่ 10 และ สมเด็จพระสันตะปาปาคลีเมนต์ที่ 7 -- ซึ่งทำให้เมดีชีกลายเป็นผู้ปกครองโรม และ ฟลอเรนซ์โดยปริยาย พระสันตะปาปาทั้งสององค์เป็นผู้มีบทบาทในการอุปถัมภ์ศิลปะ ตระกูลเมดีชีอีกคนหนึ่งที่ได้เป็นพระสันตะปาคืออเลสซานโดร อ็อตาวิอาโน (Alessandro Ottaviano de' Medici) ผู้ต่อมาเป็น สมเด็จพระสันตะปาปาลีโอที่ 11

สมาชิกที่สำคัญที่สุดในตระกูลเมดีชี ในคริสต์ศตวรรษที่ 16 คือ โคสิโมที่ 1 (Cosimo I de Medici) ผู้ที่กลับมาจากการปลดเกษียณที่มูเกลโลมาเป็นประมุขสูงสุดของแคว้นทัสเคนี ได้ชัยชนะในการรบกับรัฐเซียนนาเมืองคู่ปรับ และเป็นผู้ก่อตั้ง ราชอาณาจักรฟลอเรนซ์ (Grand Duchy of Tuscany)

ศิลปะและสถาปัตยกรรม

[แก้]

สิ่งที่ประสพความสำเร็จมากที่สุดของตระกูลเมดีชีคือการอุปถัมภ์ศิลปะและสถาปัตยกรรมโดยเฉพาะในสมัยศิลปะและสถาปัตยกรรมฟื้นฟูศิลปวิทยา ตอนต้นและตอนที่รุ่งเรืองที่สุด งานศิลปะของฟลอเรนซ์เกือบทั้งหมดในสมัยนั้นเป็นอิทธิพลของครอบครัวนี้ ฉะนั้นงบประมาณที่ใช้ก็คงเป็นจำนวนมหาศาลเพราะศิลปินยุคนั้นจะทำงานก็ต่อเมื่อได้รับสัญญาและเงินล่วงหน้า

จิโอวานนี ดิ บิชชิผู้เป็นผู้อุปถัมภ์ศิลปะคนแรกของตระกูลเมดีชีช่วย มาซาชิโอ (Masaccio) และจ้างฟีลิปโป บรูเนลเลสกีให้บูรณะบาซิลิกาซานโลเร็นโซที่ฟลอเรนซ์เมื่อปี ค. ศ. 1419 โคสิโม เดอ เมดีชีเป็นผู้อุปถัมภ์งานของ โดนาเทลโล และ ฟราแอนเจลิโค แต่ศิลปินคนที่สำคัญที่สุดที่เกี่ยวข้องกับตระกูลเมดีชีคือมีเกลันเจโล บัวนาร์โรตี ซึ่งทำงานให้กับสมาชิกในตระกูลนี้หลายคนเริ่มด้วย ลอเร็นโซผู้ปรีชา ตั้งแต่ลอเร็นโซยังเป็นเด็ก ลอเร็นโซจ้างเลโอนาร์โด ดา วินชี่ทั้งหมดด้วยกัน 7 ปี ลอเร็นโซเองก็เป็นนักกวีและแต่งเพลง ต่อมาสมเด็จพระสันตะปาปาลีโอที่ 10ก็อุปถัมภ์ราฟาเอล ผู้ที่เรียกกันว่า “Prince of Painters” สมเด็จพระสันตะปาปาคลีเมนต์ที่ 7 จ้างมีเกลันเจโลเขียนผนังหลังแท่นบูชาของชาเปลซิสติน ตระกูลเมดีชีเองก็มีส่วนสำคัญในการก่อสร้างชาเปลซิสทีนด้วย

เมื่อจิโรลาโม ซาโวนาโรลา (Girolamo Savonarola) ผู้เป็นพระลัทธิโดมินิคันพยายามปฏิรูปศาสนาโดยการเทศนาให้ทำลายหนังสือและภาพเขียนที่ท่านเชื่อว่าขาดคุณธรรมโดยการเผาสิ่งของเหล่านี้ที่เรียกว่า “พระเพลิงเผากิเลส” เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ค. ศ. 1497 อึกปีหนึ่งต่อมา เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม ค. ศ. 1498 ซาโวนาโรลากับลูกศิษย์อึกสองคนก็ถูกแขวนคอที่จตุรัสกลางเมืองที่เดียวกับที่เป็นที่ใช้เผาหนังสือ

นอกจากจะให้การสนับสนุนทางศิลปะและสถาปัตยกรรมแล้วตระกูลเมดีชียังเป็นนักสะสมอีกด้วย ปัจจุบันเราจะเห็นสิ่งที่ตระกูลเมดีชีสะสมไว้ได้ที่หอศิลป์อุฟฟิซิในเมืองฟลอเรนซ์

ทางสถาปัตยกรรมตระกูลเมดีชีมีอิทธิพลต่อสิ่งก่อสร้างหลายแห่งในฟลอเรนซ์รวมทั้งพิพิธภัณฑ์อุฟฟิซิ, วังพิตติ, สวนโบโบลิ (Boboli Gardens), ป้อมเบลเวเดเร (Belvedere) และวังเมดีชีเอง

ถึงแม้ว่าจะไม่มีใครในตระกูลเมดีชีที่เป็นนักวิทยาศาสตร์แต่ตระกูลเมดีชีมีชื่อเสียงในการเป็นผู้อุปถัมภ์นักดาราศาสตร์คนสำคัญคือ กาลิเลโอ กาลิเลอีผู้เป็นครูลูกหลานในตระกูลเมดีชีหลายคน แต่มาหยุดการสนับสนุนเอาในสมัยเฟอร์ดินานโดที่ 2 (Ferdinando II de Medici) เมื่อกาลิเลโอถูกกล่าวหาโดยศาลศาสนาโรมัน (Roman Inquisition) ว่าคำสอนของกาลิเลโอเป็นคำสอนนอกรีต แต่ตระกูลเมดีชีก็ปกป้องกาลิเลโออยู่หลายปีจนกาลิเลโอตั้งชื่อพระจันทร์สี่ดวงของดาวพฤหัสบดีตามชื่อของลูกหลานตระกูลเมดีชี

ข้อมูลเพิ่มเติม

[แก้]

คนสำคัญในตระกูลเมดีชี

[แก้]
โคสิโม เดอ เมดีชี หรือ
“โคสิโมผู้พ่อ”
แคทเธอรีน เดอ เมดีชี พระราชินีแห่งฝรั่งเศส
แอนนา มาเรีย หลุยซา เดอ เมดีชี

อ้างอิง

[แก้]
  1. Booth, p 163
  2. 2.0 2.1 Acton, p 208
  • Christopher Hibbert, The House of Medici: Its Rise and Fall (Morrow, 1975)
  • Ferdinand Schevill, History of Florence: From the Founding of the City Through the Renaissance (Frederick Ungar, 1936)
  • Paul Strathern, The Medici - Godfathers of the Renaissance (Pimlico, 2005)
  • Lauro Martines, "April Blood - Florence and the Plot Against the Medici" (Oxford University Press 2003)
  • Accounting in Italy
  • Herbert Millingchamp Vaughan, The Medici Popes. New York: G.P. Putnam’s Sons, 1908
  • Jonathan Zophy, A Short History of Renaissance and Reformation Europe, Dances over Fire and Water. 1996. 3rd ed. Upper Saddle River, New Jersey: Prentice Hall, 2003
  • PBS/Justin Hardy, Medici: Godfathers of the Renaissance
  • TLC/Peter Spry-Leverton.PSL, The Mummy Detectives: The Crypt Of The Medici

ข้อมูลเพิ่มเติม

[แก้]

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]