อวสานสมุดมรณะ
อวสานสมุดมรณะ | |
---|---|
ใบปิดภาพยนตร์ | |
กำกับ | ชูสึเกะ คะเนะโกะ |
นักแสดงนำ | ฟุจิวะระ ทัตสึยะ เค็นอิจิ มัตสึยะมะ เอริกะ โทดะ |
ผู้จัดจำหน่าย | เอ็ม พิคเจอร์ส |
วันฉาย | 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2549 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2549 |
ความยาว | 141 นาที |
ประเทศ | ญี่ปุ่น |
ภาษา | ญี่ปุ่น |
ก่อนหน้านี้ | สมุดโน้ตกระชากวิญญาณ |
ต่อจากนี้ | สมุดโน้ตสิ้นโลก |
ข้อมูลจาก IMDb | |
ข้อมูลจากสยามโซน |
อวสานสมุดมรณะ (ญี่ปุ่น: デスノート: The Last Name อังกฤษ: Death Note: The Last Name หรือ Death Note 2: The Last Name) เป็นภาพยนตร์ซึ่งมีต้นแบบมาจากการ์ตูนเรื่องเดธโน้ตมีชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า "The Last Name" โดยภาคนี้เป็นภาคที่สอง ภาคแรกมีชื่อว่า "สมุดโน้ตกระชากวิญญาณ" สร้างโดยวอร์เนอร์ บราเธอร์ส ผู้กำกับคือ ชูสึเกะ คาเนโกะ มีความยาว 141 นาที
เนื้อเรื่อง
[แก้]บทความนี้หรือส่วนนี้ของบทความต้องการปรับรูปแบบ ซึ่งอาจหมายถึง ต้องการจัดรูปแบบข้อความ จัดหน้า แบ่งหัวข้อ จัดลิงก์ภายใน และ/หรือการจัดระเบียบอื่น ๆ คุณสามารถช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้โดยการกดที่ปุ่ม แก้ไข ด้านบน จากนั้นปรับปรุงหรือจัดรูปแบบอื่น ๆ ในบทความให้เหมาะสม |
เมื่อยางามิ ไลท์ (คิระ) ได้เข้ามาในการสืบสวนคดีคิระ เขาก็พยายามหาทางฆ่าแอล อีกด้านหนึ่ง อากาเนะ มิสะ ได้ถูกโจรไล่ตามฆ่า แต่ทันใดนั้น โจรคนนั้นก็ล้มตายลงเพราะอาการหัวใจวาย แล้วสมุดเดทโน้ตเล่มที่ 2 ก็ตกลงมา เมื่อมิสะได้หยิบสมุดเดทโน้ตเล่มนั้นขึ้นมา เธอก็เห็นเรม (ยมทูตของมิสะ) แล้วมิสะก็แลกดวงตายมทูตกับเรม แล้วตั้งตัวขึ้นมาเป็นคิระคนที่ 2 แล้วอัดเทปส่งให้ทางสถานีซากุระให้ฉายไปทั่วญี่ปุ่น มีตอนหนึ่ง เทปในนั้นได้บอกว่า หากคุณเป็นคิระ โปรดมาหาฉันที่สถานีซากุระด่วนด้วย ไลท์จึงอ้างว่าจะไปช่วยซายุให้พ้นจากอันตราย แล้วก็ไปกับยางามิ โซอิจิโร่ (พ่อของไลท์) พอไปถึง มิสะก็ใช้ดวงตายมทูตมองคนแล้วคนเล่า จนกระทั่งเจอกับยางามิ ไลท์ เมื่อมิสะมองไป ก็ไม่เห็นอายุขัยของไลท์ (ดวงตายมทูต สามารถมองเห็นชื่อและอายุขัยของคนได้ แต่จะไม่สามารถเห็นอายุขัยของคนที่ครอบครองเดทโน้ตได้) เธอจึงรีบหาข้อมูลจากมหาวิทยาลัยที่ไลท์เรียนอยู่ แล้วไปที่บ้านไลท์ ไลท์รู้ว่าหากใช้มิสะช่วยในการหาชื่อจริงของแอล แล้วตัวเขาเองจะสามารถฆ่าแอลได้ ส่วนทางมิสะก็ไม่ขัดขืนอยู่แล้ว เพราะเธอหลงรักไลท์ตั้งแต่ตอนที่เจอกันที่สถานี เรมบอกไลท์ไว้ว่าหากไลท์ทำให้มิสะตกอยู่ในอันตรายเมื่อไร เขาจะลงมือฆ่าไลท์ด้วยตัวของเขาเอง ไลท์จึงยอมเป็นแฟนกับมิสะ และจะพาเธอไปพบกับริวซากิให้เร็วที่สุด เช้าวันหนึ่ง แอลได้มาหาไลท์ขณะที่ไลท์เรียนอยู่ แล้วก็บอกว่า ชั้นจะติดตามนายไปตลอด จนกว่าชั้นจะแน่ใจว่านายไม่ใช่คิระ พอไลท์พาแอลมาข้างนอก มิสะก็มาเห็นไลท์พอดี จึงเดินมาหาไลท์ แล้วก็เปิดหน้ากากของแอลออก แล้วมิสะมิสะก็มองด้วยสีหน้าแปลกๆ แล้วถามว่าชื่อริวซากิหรอ แล้วแอลก็นำหน้ากากคืนมาแล้วก็ใส่ไว้ด้านข้าง แล้วผู้คนก็แห่กันมาดูมิสะมิสะ แล้วพอเธอจากไป แอลก็เดินออกไป แล้วไลท์ก็โทรหามิสะมิสะ แต่เสียงของคนที่รับก็คือเสียงของริวซากิ แล้วไลท์ก็เดินมาหาแอล แล้วแย่งมือถือของมิสะมาไว้ในมือ
ทันใดนั้น ทางตำรวจสืบสวนคดีคิระ ได้โทรมาแจ้งแอลว่า ได้จับตัวมิสะมัดมือมัดเท้าปิดตาขังในห้องควบคุมตัวเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากแอลเป็นคนสงสัยว่า มิสะมิสะคือคิระคนที่ 2 และคิระคนที่ 2 สามารถฆ่าคนได้โดยการมองเห็นหน้าตา หลังเลิกเรียน ไลท์รีบกลับไปบ้านแล้วได้พบกับเรม เพราะเรมขอให้มิสะมิสะถอนตัวจากการเป็นผู้ครอบครองเดธโน้ต แล้วเรมก็ต้องการที่จะฆ่าไลท์ แต่ไลท์บอกว่าหากเรมฆ่าตัวเขา แล้วมิสะรู้เข้า เธออาจจะเสียใจจนฆ่าตัวตายตามเลยก็ได้ เรมนิ่งเงียบไปสักพัก เรมจึงเล่าให้ไลท์ฟังว่า...เมื่อก่อน มียมทูตตนหนึ่งชื่อว่าเจรัซ เขาเฝ้ามองมิสะจากยมโลกลงมาทุกครั้ง จนกระทั่งวันหนึ่งชะตาของเธอใกล้จะถึงฆาต เจรัซจึงฆ่าคนที่จะทำร้ายมิสะมิสะด้วยเดทโน้ต แต่นั่นเป็นการยืดอายุขัยให้กับมิสะ ซึ่งนั่นเป็นการฝ่าฝืนกฎของยมทูต เจรัซจึงสลายกลายเป็นทรายไป แล้วก็มอบหน้าที่ให้เรมดูแลมิสะต่อไป แล้วไลท์ก็บอกว่า ถ้านายฆ่าชั้น เพื่อยืดอายุขัยให้กับมิสะ นายก็ต้องตายนี่ เรมบอกว่า ชั้นยอมตายได้ เพื่อมิสะมิสะ แล้วไลท์ก็บอกว่า การช่วยคนๆนึงน่ะ มันต้องใช้เวลา แล้วไลท์ก็โทรไปหาริวซากิ แล้วขอให้ตนได้เข้าไปในที่สืบสวนคดีด้วย และมีข้อแม้อย่างหนึ่งก็คือ จะให้แอลจับตนเข้าไปขังในห้องควบคุมตัว เพราะไลท์คิดว่าตัวเองน่าจะเป็นคิระ แต่ก่อนหน้านั้นไลท์ได้ฝังสมุดเดทโน้ตไว้ในป่า แล้วขอให้เรมนำเดทโน้ตของมิสะไปให้ผู้ที่น่าจะร่วมงานกับคิระได้มากที่สุด แล้วขอให้เรมตั้งกฎ (ปลอม) ใหม่ขึ้นมา 1 ข้อ นั่นคือกฎ 13 วัน ที่ว่า หากใครเขียนเดทโน้ตแล้วไม่เขียนต่ออีกเป็นเวลา 13 วัน คนผู้นั้นจะต้องตาย และเหตุที่ไลท์ต้องการให้แอลขังตัวเองไว้ในห้องควบคุม เพื่อแอลมาเจอเดทโน้ต จะได้ไม่สงสัยในตัวของมิสะกับไลท์ได้อีกต่อไป แล้วเรมก็จากไป ทางไลท์ได้บอกกับลุค (ยมทูตของไลท์) ว่า หากตนจะต้องการที่จะถอนตัวจากการครอบครองเดทโน้ต จะใช้คำว่าโยนทิ้งเท่านั้น แล้วพอไลท์ไปถึง แอลก็สั่งให้ควบคุมตัวไลท์ไว้ จนกระทั่งขังไลท์ได้ในวันที่ 13 ไลท์ก็บอกลุคว่าโยนทิ้งแล้วลุคก็บินจากไป เมื่อมาถึงการควบคุมตัวมิสะวันที่ 23 และการควบคุมตัวไลท์ วันที่ 18 มีอาชญากรรมตายเพราะหัวใจวายเหมือนเดิมมาโดยตลอด
ทั้งสองจึงถูกปล่อยตัวจากห้องควบคุม แต่มิสะจะต้องอยู่ในห้องของไลท์ โดยที่ห้ามออกไปไหนเลย เหตุที่อาชญากรตาย เพราะเรมได้นำสมุดเดทโน้ตไปให้ผู้ประกาศข่าวคนใหม่ของช่องซากุระ ทีวี เธอเขียนชื่อคนในเดทโน้ตไปเรื่อยๆ ไม่สนใจพวกตำรวจที่กำลังสืบหาข้อมูลจนติดกล้องวิดีโอไว้ในบ้านของเธอ เมื่อเขาเห็นว่า แค่เขียนชื่อของคนๆนั้นไปในเดทโน้ต คนที่ถูกเขียนชื่อจะต้องตายทุกคน พวกเขาจึงใช้กลลวงหลอกให้เธอมาที่นี่ แล้วจับกุมตัวเอาไว้ พอผู้หมวดยางามิ ได้แตะสมุดเดทโน้ต เขาจึงเห็นเรม ยมทูตของสมุดเล่มนั้น แล้วทุกๆคนก็ลองแตะดู แล้วพวกเขาก็เห็นจริงๆแต่เมื่อไลท์แตะ ความจำเกี่ยวกับเดทโน้ตของเขาก็กลับคืนมา แล้วเขาจึงฆ่าผู้ประกาศข่าวคนนั้นทิ้ง เพื่อเขาจะได้จำได้อย่างถาวร เมื่อแอลกำลังสืบสวนคดีนี้อย่างไม่น่าเชื่อ เขาเลยขอให้ผู้หมวดยางามิ โซอิจิโร่ กับทุกๆคน ขึ้นฮ.ไปอเมริกา เพื่อใช้นักโทษประหารทั้ง 2 คนในการทดลองกับเดทโน้ต และเมื่อไลท์กับแอลอยู่กันตามลำพัง แอลก็บอกไลท์ว่า อีกสักครู่ วาตาริ จะพาตัวมิสะมิสะมาที่นี่ ไลท์นึกอยู่แล้ว จึงยอมแอลไป แล้วเรมก็เพิ่งรู้ตัวว่าโดนไลท์หลอกใช้อยู่ เรมจึงต้องจำใจเขียนชื่อจริงของวาตาริ และแอล ลงในเดทโน้ต เพื่อจะช่วยมิสะมิสะจากการโดนประหาร พอลิฟท์เปิด วาตาริก็สิ้นใจในทันที แล้วสักครู่หนึ่ง แอลก็ล้มลงจากเก้าอี้แล้วเสียใจกับสิ่งที่ผิดพลาดมาก ทันใดนั้นแอลก็นอนหลับตาลง ชีพจรหยุดเต้น..แล้วไลท์ก็ขอเดทโน้ตจากมิสะมิสะ แล้วเขียนชื่อพ่อของตัวเองลงไปว่า ยางามิ โซอิชิโร่ ตายเพราะหัวใจวาย ก่อนตาย เขาได้นำสมุดเดทโน้ตมาให้กับลูกชายของเขาแล้วสิ้นใจลงทันที แต่มิสะมิสะขัดขืนอะไรไม่ได้ แล้วไลท์ก็นั่งรอ พอผู้หมวดมา ก็เดินมาหาไลท์ ไลท์ก็ขอสมุดเดทโน้ต ผู้หมวดยามางิเปิดกระเป๋าออกปรากฏว่าไม่มีสมุดนั้น
แล้วผู้หมวดก็บอกไลท์ว่าเขาและทุกคนได้ยินและได้เห็นสิ่งที่ไลท์ทำหมดแล้ว แล้วทุกคนก็มาสกัดไลท์ไว้ ส่วนมิสะมิสะก็โดนจับกุมตัวไว้ข้างหลัง แล้วไลท์ก็หันไปดู เขาก็เห็นว่าสมุดนั้นเป็นของปลอม แล้วแอลก็เดินลงมาแล้วบอกกับไลท์ว่า ผู้ที่สลับเดทโน้ตก็คือชั้น มิสะมิสะเขาไม่ได้หักหลังนายหรอก ไลท์พยายามพูดเกลี้ยกล่อมพ่อของเขา โดยที่กำลังหมุนนาฬิกา เพื่อจะเขียนชื่อทุกคนลงไปในเศษเดทโน้ตชิ้นเล็กๆ แต่มัดสึดะยิงปืนสกัดไว้ทัน แล้วพอไลท์กำลังจะวิ่งไปหยิบเศษเดทโน้ตเขาก็โดนยิงสกัดที่ขา จนล้มลงแล้วไลท์ก็เลยขอให้ลุคเขียนชื่อคนทุกคนในที่นี้ลงไปในเดทโน้ต แล้วลุคก็เขียนชื่อลงไป แต่ว่าพอไลท์ขอดู ลุคดันเขียนชื่อของไลท์ลงไป แล้วคราวนี้ลุคก็บอกว่าชั้นสนุกมามากพอแล้วแล้วลุคก็จากไป ทันใดนั้นไลท์ก็ตายเพราะอาการหัวใจวาย แล้วแอลก็เผาเดทโน้ตหลังจากนั้น ผ่านไป 23 วัน แอลนั่งเล่นหมากรุกพร้อมทั้งกินช็อกโกแลตอยู่คนเดียว แล้วผู้หมวดยางามิก็เดินเข้ามาขอบคุณแอลที่ได้ช่วยสืบคดีคิระให้ แล้วแอลก็บอกว่า เวลาของผมใกล้หมดแล้ว ผมอยากอยู่คนเดียวตามด้วยลาก่อน คุณยางามิ ผู้หมวดยางามิจึงแสดงความเคารพต่อแอลเป็นครั้งสุดท้าย แล้วเดินจากไป แล้วแอลก็ตายตามคิระไป
หนึ่งปีต่อมา ยางามิ ซายุ (น้องสาวของไลท์) ได้บอกว่า หลังจากไม่มีคีระ อาชญากรรมก็เพิ่มขึ้น ผู้หมวดยางามิ ก็กล่าวว่า แล้วลูกอยากให้คีระกลับมาเหรอ ซายุไม่อยากให้คีระกลับมา เพราะว่า คีระเป็นคนฆ่าพี่ไลท์ของหนู พร้อมกับร้องไห้
ตัวละคร
[แก้]- ยางามิ ไลท์ รับบทโดย ฟุจิวะระ ทัตสึยะ
- แอล รับบทโดย เคนอิชิ มัทสึยามะ
- อามาเนะ มิสะ รับบทโดย เอริกะ โทดะ
- วาตาริ รับบทโดย ซุนจิ ฟูจิมูระ
วันที่เข้าฉายในโรงภาพยนตร์
[แก้]- ประเทศญี่ปุ่น: 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2549
- ประเทศไต้หวัน: 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2549
- ประเทศไทย: 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2549
- ประเทศสิงคโปร์: 28 ธันวาคม พ.ศ. 2549
- ประเทศมาเลเซีย: 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2550
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ (ญี่ปุ่น)
- Death Note : The Last Name เก็บถาวร 2007-08-11 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน at JKdramas