ฟามฟาเตล (อัลบั้มของบริตนีย์ สเปียส์)
ฟาม ฟาเตล | ||||
---|---|---|---|---|
สตูดิโออัลบั้มโดย | ||||
วางตลาด | 31 มีนาคม พ.ศ. 2554 | |||
บันทึกเสียง | พ.ศ. 2554 | |||
แนวเพลง | ป็อป แดนซ์-ป็อป อิเลคโทรนิก้า | |||
ค่ายเพลง | ไจฟ์เรคอร์ดส ซอมบามิวสิก | |||
โปรดิวเซอร์ | Dr. Luke (also exec.), Max Martin (also exec.), Ammo, Billboard, Benny Blanco, Bloodshy & Avant, Darkchild, Dream Machine, Fraser T. Smith, JMIKE, Henrik Jonback, Magnus, Oligee, Sandy Vee, Shellback, Stargate, will.i.am | |||
ลำดับอัลบั้มของบริตนีย์ สเปียรส์ | ||||
|
ฟาม ฟาเตล (อังกฤษ: Femme Fatale) คือ สตูดิโออัลบั้มลำดับที่ 7 ของบริตนีย์ สเปียรส์ ศิลปินเพลงป็อปหญิงชาวอเมริกัน ออกจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2554 ร้อนแรง เลอเลิศ อัลบั้มล่าสุดจาก Britney Spears และเพลงฮิตอันดับ 1 ‘Hold It Against Me’ “Hold It Against Me” คือ ซิงเกิลแรกจากอัลบั้มใหม่ล่าสุด ของ Britney Spears โปรดิวซ์โดยเจ้าพ่อเพลงป็อบ Max Martin และ Dr. Luke นี่ถือเป็นซิงเกิลเปิดตัวของอัลบั้มชุดที่ 7 “Femme Fatale” (ฟาม ฟาเตล) และเป็นอีกหนึ่งเพลงอันดับ 1 บน Billboard Hot 100 Chart ของบริทนีย์ และเพลงนี้ยังขึ้นอันดับ 1 บน iTunes Songs Chart กว่า 20 ประเทศทั่วโลก มิวสิกวิดีโอได้ Jonas Akerlund ผู้กำกับคู่บุญของ Madonna มาร่วมงาน กว่า 12 ปีบนเส้นทางดนตรี 5 อัลบั้มที่เปิดตัวทันทีในอันดับ 1 บนชาร์ท Billboard Top 200 Albums และมีเพลงฮิตติด Top 40 ชาร์ท Billboard’s Mainstream ทั้งสิ้นถึง 24 เพลง Britney เป็นหนึ่งในศิลปินขายดีระดับโลก โดยในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา พร้อมยอดขายมากกว่า 67 ล้านก๊อปปี้ทั่วโลก จากอัลบั้ม Baby One More Time (1999); Oops!... I Did It Again (2000); Britney (2001); In The Zone (2003); Blackout (2007); Circus (2008); และ The Singles Collection (2009)
รายชื่อเพลงในอัลบั้ม
[แก้]ฉบับมาตรฐาน
[แก้]- " Till The World End"
- " Hold It Against Me"
- "Inside Out"
- " I Wanna Go "
- "How I Roll"
- "(Drop Dead) Beautiful (Feat. Sabi)"
- "Seal It With A Kiss"
- "Big Fat Bass (Feat. Will.I.Am)"
- "Trouble For Me"
- "Trip To Your Heart"
- "Gasoline"
- " Criminal"
โบนัสแทร็ค
[แก้]- "Up n' Down"1
- "He About to Lose Me"1
- "Selfish"1
- "Don't Keep Me Waiting"1
- "Scary"2
หมายเหตุ
- 1สำหรับ Deluxe Edition
- 2สำหรับ Japanese edition bonus track
ซิงเกิล
[แก้]"Hold It Against Me"
[แก้]ต้นสังกัดของบริทนี่ย์ ได้ปล่อยซิงเกิลแรกออกมาจากอัลบั้มสตูดิโอที่ 7 ของ บริตนีย์ สเปียรส์ ในวันที่ 11 มกราคม ค.ศ. 2011 ก็ได้รับกระแสที่ค่อนข้างดีมาก ปล่อยในวันแรกก็ทำให้ บริตนีย์ สเปียรส์ ได้ติดในชาร์ตบิลบอร์ดที่อันดับ 1 สร้างความตะลึงให้กับแฟนคลับเลยทีเดียว และเป็นเพลงที่เปิดตัวในชาร์ตบิลบอร์ดที่สูงที่สุดของบริทนี่ย์ และเพลงนี้ยังขึ้นอันดับ 1 บน iTunes Songs Chart กว่า 20 ประเทศทั่วโลก ต่อมาก็ได้ปล่อยมิวสิกวิดีโอของเธอออกมา แต่ก็ทำให้แฟนๆเพลงผิดหวังและสับสนกันอย่างมาก เนื่องจากมิวสิกวิดีโอของเธอนั้น ได้มีการโฆษณาขายของต่างๆเช่น น้ำหอม, เครื่องสำอาง หรือแม้กระทั่ง เครื่องสารสนเทศ ต่างๆ และตัดต่อวิดิโอออกมา ทำให้แฟนๆปวดหัวกันมาก แต่รวมๆแล้ว จะเห็นได้ว่า บริตนีย์ สเปียรส์ มีการพัฒนาเป็นอย่างมาก
"Till The World Ends"
[แก้]วางจำหน่าย 11 มีนาคม (digital download) 4 มีนาคม (Radio premiere)
ต้นสังกัดของริทนี่ย์ ได้ปล่อยซิงเกิลออกมาเป็นซิงเกิลที่ 2 แต่ซิงเกิลนี้ ไม่แรงเท่าซิงเกิลที่ 1 ที่ทำได้ติดชาร์ตในบิลบอร์ดในวันแรกที่ปล่อยเพลง ซิงเกิลนี้เลยตกไปอยู่อันดับที่ 2 ในวันแรก และต่อมา ก็ตกลงไปอยู่ในอันดับที่ 20 เนื่องจากสภาพ มิวสิกวิดีโอ ซิงเกิลก่อนที่เธอทำให้ชาวแฟนๆผิดหวัง แล้วนำเธอไปเปรียบเทียบกับ เลดีกากา ซึ่ง เพลง Born This Way ของเธอและมิวสิกวิดีโอของเธอ มาแรงแซงอันดับ1ไปได้ แต่ทางต้นสังกัดเองก็พยายามให้สุดความสามารถ เพื่อให้ไม่ทำให้แฟนๆเพลงของเธอผิดหวัง ต่อมา ก็ได้มีมิวสิกวิดีโอออกมา ในวันที่ 5 เมษายน ที่กำกับโดย เรย์ เคย์ (ซึ่งเคยกำกับเพลง Poker Face ของ เลดีกากา และ Baby ของ จัสติน บีเบอร์ ฯลฯ) ทำให้เพลงนี้ขึ้นชาร์จในสัปดาห์แรกอยู่ที่ 8 และสัปดาห์ต่อมา ก็ขึ้นไปอยู่อันดับที่ 3ได้
"I Wanna Go"
[แก้]I Wanna Go คือซิงเกิลที่ 3 ของ บริตนีย์ สเปียรส์ ในสัปดาห์แรกเพลงนี้อยู่ในอันดับที่ 73 ใน บิลบอร์ดชาร์จ แต่ติดอันดับ 1 ใน เกาหลีใต้ ซึ่งเพลงนี้ได้ เชลแบล็ค, แม็กซ์ มาร์ติน เป็นโปรดิวเซอร์ให้ และยังได้ ซาวาน มาร่วมแต่งเพลงนี้อีกด้วย และเพลงนี้ได้ คริส มาร์ พิเลียโร มากำกับมิวสิกวิดีโอเพลงนี้ ต่อมาก็ได้ปล่อยเอ็มวีตัวนี้ออกมา จนทำให้เพลงนี้ขึ้นจากอันดับ 89 ไป 29 เพียงแค่สัปดาห์เดียว ก็ทำชาร์จได้อย่างน่าทึ่ง
"Criminal"
[แก้]ซิงเกิลที่ 4 ของ บริตนีย์ สเปียรส์ คือ Criminal วางจำหน่ายในวันที่ 30 กันยายน แล้วตามด้วย Music Video ที่กระแทกใจแฟนๆแบบสุดๆ เนื่องจาก Music Video ตัวนี้ บริทนี่ย์ เธอได้นำแฟนหนุ่มของเธอร่วมแสดงอีกด้วย และได้ผู้กำกับคนเดียวที่กำกับเพลง I Wanna Go ของเธออีกด้วย
อ้างอิง
[แก้]www.britneythailand.net[ลิงก์เสีย]