ดวงดาวเล็ก ๆ บนผืนโลก
ดวงดาวเล็ก ๆ บนผืนโลก | |
---|---|
กำกับ | อามิร์ ข่าน |
เขียนบท | อาโมเล คุปเต |
อำนวยการสร้าง | อามิร ข่าน |
นักแสดงนำ | ทรรศีล สผารี อามิร์ ข่าน ฏิสกา โจปรา วิปิน ศรรมา ตนัย เฉทะ |
กำกับภาพ | สัตยชีต ปาณเฑ (เสตุ) |
ตัดต่อ | ทีปะ ภติยะ |
ดนตรีประกอบ | ศังกระ-เอซาน-โลย |
บริษัทผู้สร้าง | อามิร ข่าน โพรดักชั่นส์ พีวีอาร์ พิคเชอส์ |
ผู้จัดจำหน่าย | พีวีอาร์ พิคเชอส์ |
วันฉาย |
|
ความยาว | 164 นาที[1] |
ประเทศ | อินเดีย |
ภาษา | ภาษาฮินดี |
ทุนสร้าง | ₹120 ล้าน |
ทำเงิน | ₹1.35 ล้าน |
ตาเร ซะมีน ปะร์ (ฮินดี: तारे ज़मीन पर, อักษรโรมัน: Taare Zameen Par; แปลว่า ดวงดาวบนพื้นโลก) หรือชื่อไทย ดวงดาวเล็ก ๆ บนผืนโลก (อังกฤษ: Like Stars on Earth) เป็นภาพยนตร์ดรามาภาษาฮินดี ออกฉายในปี ค.ศ. 2007 ผลิตและกำกับโดย อามิร์ ข่าน นำแสดงโดยอามิร์ ข่าน, ทรรศีล สผารี, ตนัย เฉทะ, วิปิน ศรรมา และ ฏิสกา โจปรา ภาพยนตร์บอกเล่าชีวิตและจินตนาการของ อิศาน (ฮินดี: इशान, Ishaan; รับบทโดยสผารี) เด็ชายวัยเก้าขวบที่มีพรสวรรค์ทางศิลปะ แต่ด้วยผลการเรียนที่แย่ทำให้พ่อแม่ส่งเขาไปเรียนในโรงเรียนประจำ ที่ซึ่งครูศิลปะคนใหม่ นิกุมภ์ (ฮินดี: राम शंकर निकुम्भ, Nikumbh; รับบทโดยข่าน) สงสัยว่าอิศานป่วยด้วยโรคดิสเล็กเซีย และช่วยให้เขาก้าวผ่านโรคดังกล่าวได้
ภาพยนตร์ออกฉายในประเทศอินเดียครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2007 และประสบความสำเร็จในแง่ของรายได้ โดยทำเงินได้ 1.35 พันล้านรูปีอินเดียจากการออกฉายทั่วโลก และได้รับการวิจารณ์ไปในทางบวก ได้รับการชื่นชมทั้งแง่ของเนื้อเรื่อง บทละคร การกำกับ ดนตรีประกอบ และการแสดง นอกจากนี้ภาพยนตร์นี่ยังมีส่วนในการกระตุ้นการรับรู้ของโรคดิสเล็กเซียในอินเดีย
บทบาท
[แก้]- ทรรศีล สผารี รับบท อิศาน นันทกิโศร อวัสถี (Ishaan Nandkishore Awasthi) บุตรของมายา และนันทกิโศร[2]
- อามิร์ ข่าน รับบท ราม ศังกระ นิกุมภ์ (Ram Shankar Nikumbh) ครูศิลปะโรงเรียนมัธยมนิวอีรา[3]
- ฏิสกา โจปรา รับบท มายา อวัสถี (Maya Awasthi) มารดาของอิศาน และ โยหาน[4]
- วิปิน ศรรมา รับวท นันทกิโศร อวัสถี (Nandkishore Awasthi) บิดาของอิศาน และ โยหาน[5]
- ตนัย เฉทะ รับบท ราชัน ทโมทรัน (Rajan Damodran) เพื่อนรักของอิศานที่โรงเรียนประจำ
- สเจต เอนจิเนียร์ รับบท โยหาน นันทกิโศร อวัสถี (Yohaan Nandkishore Awasthi) พี่ชายของอิศาน
- คิริชา โอก รับบท ชพีน ข่าน (Jabeen Khan) เพื่อนร่วมงานของราม
- เอ็มเค ไรนา รับบท ครูใหญ่โรงเรียนประจำ
- เมฆนา มาลิก รับบทครูวิกตอเรีย ที่โรงเรียนเซนต์อันโทนี
- โสนาลี สัจเทพ รับบทครูไอรีน ที่โรงเรียนเซนต์อันโทนี
- ลลิตา ลัชมิ รับบทเป็นตัวเอง[6]
การผลิต
[แก้]การพัฒนา
[แก้]ทีมสามีภรรยา อโมเล คุปเต และ ทีปะ ภติยา (Deepa Bhatia) พัฒนาเนื้อเรื่องที่ต่อมากลายมาเป็นเนื้อเรื่องของภาพยนตร์เรื่องนี้ เพื่อใช้งานสำหรับทำความเข้าใจว่าทำไมเด็กบางคนไม่สามารถเข้าได้ดีกับระบบการศึกษาแบบทั่วไป การทำงานของทั้งสองเริ่มต้นจากเรื่องสั้นที่พัฒนามาเป็นบทภาพยนตร์โดยใช้เวลากว่าเจ็ดปี ภติยากล่าวในบทสัมภาษณ์กับ เดอะฮินดู ว่าเธอได้รับแรงบันดาลใจแรกเริ่มมาจากชีวิตวัยเด็กของผู้ผลิตภาพยนตร์ชาวญี่ปุ่น อากีระ คุโรซาวะ ซึ่งมีผลการเรียนแย่ในสมัยเรียน เธอระบุว่าจากตอนหนึ่งในชีวประวัติของคุโรซาวะ ซึ่งเขาเริ่มมีผลการเรียนดีขึ้นหลังพบกับครูศิลปะที่ให้ความใส่ใจกับเขา กลายมาเป็นแรงบันดาลใจของเธอว่า “ครูคนหนึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของนักเรียนคนหนึ่งได้”[2]
ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นประสบการณ์การแสดงควบคู่กับการกำกับภาพยนตร์ครั้งแรกของข่าน เขายอมรับว่าการเปลี่ยนผ่านนี้ท้าทาย และระบุว่าแม้เขาอยากจะกำกับภาพยนตร์มาโดยตลอด แต่การกำกับภาพยนตร์ถือเป็นเขตแดนใหม่สำหรับเขา[7] ข่านระบุว่าชื่อของภาพยนตร์มาจากว่าภาพยนตร์นี้เป็นมุมมองสำหรับเด็กที่มีความบกพร่อง ชื่อของภาพยนตร์ให้ความรู้สึกในเชิงบวก “เด็กทุกคนล้วนพิเศษและมหัศจรรย์ เหมือนกับดวงดาวบนพื้นโลก” ซึ่งกลายมาเป็นชื่อของภาพยนตร์[8]
การถ่ายทำ
[แก้]การถ่ายทำหลักดำเนินในประเทศอินเดีย กินระยะเวลา 5 เดือน[9] ข่านใช้เวลาสองวันแรกหมดไปกับการกำกับบล็อกกิงสำหรับฉากแรกที่จะถ่ายทำ ซึ่งคือฉากที่อิศานเดินกลับบ้านจากโรงเรียน[10] ข่านเชื่อว่าผู้ชมไม่ควรจะรับรู้ได้ว่ามีกล้องอยู่ จึงเลือกวิธีการถ่ายแบบง่ายซึ่งมีการขยับกล้องค่อนข้างน้อย[11]
ฉากเปิดของภาพยนตร์ถ่ายทำในสถานที่จริงที่ฟิล์มซิตี มุมไบ[12] ฉากฝันร้ายที่อิศานฝันว่าพลัดหลงจากมารดาที่สถานีรถไฟ ถ่ายทำที่ฉากถ่ายทำภาพยนตร์ถาวรสำหรับสถานีรถไฟในมุมไบ[13]
ฉากโรงเรียนทั้งหมดถ่ายทำในสถานที่จริง โดยโรงเรียนแรกของอิศานนั้น ทีมงานมองหาโรงเรียนในมุมไบที่ให้อารมณ์ “กดขี่” เพื่อให้เกิดความรู้สึก “หนักหน่วงในโรงเรียนในมหาคร“[14] และได้เลือกถ่ายทำที่โรงเรียนเซนต์เซเวียร์ (St. Xavier's School)[15] เนื่องจากโรงเรียนตั้งอยู่บนถนนหลัก การถ่ายทำดำเนินไประหว่างสุดสัปดาห์เพื่อลดเสียงพื้นหลังที่รบกวนการถ่ายทำ ในตอนที่ถ่ายทำฉากอิศานถูกไล่ออกจากห้องเรียนในตอนต้นของภาพยนตร์นั้นตรงกับวันที่มีการจัดมุมไบมาราทอนพอดี ทีมงานใช้การติดแผ่นอะคริลิกใสบนหน้าต่างของห้องเรียนเพื่อช่วยลดทอนเสียงจากงานมาราทอน[16] โรงเรียนมัธยมนิวอีราในปัญจคนิ ใช้ถ่ายทำเป็นโรงเรียนประจำของอิศาน ส่วนบ้านหลังเล็กของอิศานถ่ายทำในนิคมไมซอร์ เมืองเจมพูร์[17]
นักแสดงเด็ก
[แก้]มีนักเรียนจริง ๆ เข้าแสดงตลอดทั้งเรื่อง ข่านยังให้เครดิตความสำเร็จของภาพยนตร์ว่ามาจากเด็กเหล่านี้ และข่านเองยังได้รับความนิยมอย่างมากในบรรดาเด็ก ๆ[7] นอกจากนี้ ข่านยังให้ความสำคัญอย่างมากต่อความต้องการของเด็ก ๆ ในวันต่อวัน และทุ่มเทอย่างมาก[8] ทีมงานยังมีส่วนร่วมในการหาอะไรให้เด็ก ๆ ทำโดยไม่เบื่อตลอดการถ่ายทำ[18] ผู้ประสานงานของโรงเรียนมัธยมนิวอีรา ดักลาส ลี (Douglas Lee) มองว่าประสบการณ์ที่ให้นักเรียนเข้าร่วมแสดงด้วยนี้ไม่เพียงแต่ช่วยสอนให้เด็ก ๆ รู้จักความอดทนและการให้ความร่วมมือ แต่ยังช่วยให้พวกเขาเข้าใจดียิ่งขึ้นว่าจะปฏิบัติตัวเช่นไรกับเด็กที่มีปัญหาในโรงเรียนเช่นเดียวกับอิศาน[19] เนื่องจากการถ่ายทำที่โรงเรียนนิวอีราดำเนินไปในช่วงวันหยุดฤดูหนาว นักแสดงที่รับบทเพื่อนร่วมชั้นของอิศานทิ้งช่วงวันหยุดยาวมาเพื่อเข้าร่วมแสดง[20] นอกจากนี้ยังมีการนำเอานักเรียนจากโรงเรียนโดยรอบมาเพื่อเติมเต็มฉากหลังของภาพยนตร์[21] มีเด็กราว 1,500 คนในฉากกว้างของฉากเทศกาลศิลปะซึ่งเป็นจุดสูงสุดของภาพยนตร์ ในชณะที่ฉากขนาดกลางใช้เด็กราว 400 คน[22]
การตอบรับ
[แก้]บทวิพากษ์
[แก้]ภาพยนตร์ได้รับคะแนน บนเว็บไซต์รวบรวมบทวิจารณ์ รอตเทนโทเมโทส์ พบว่า 92% ของบทวิจารณ์โดยนักวิจารณ์ 12 คนเป็นไปในทางบวก ด้วยคะแนนเฉลี่ย 7/10 [23] สุภาษ เค ฌา (Subhash K. Jha) ระบุว่าภาพยนตร์นี้เป็น ”ชิ้นงานศิลปะ เป็นภาพเขียนสีน้ำที่หยดลงในหัวใจของเราทุกคน ซึ่งไม่ยากเลยที่จะหลงเข้าไปในท่วงท่าของอารมณ์ที่อ่อนไหวเกินจริง อามิร์ ข่าน รู้จักที่จะไม่ทุ่มมากเกินไปในจุดที่เขาสามารถจะเปลี่ยนไปเป็นการแสดงที่ดรามาและเต็มไปด้วยอารมณ์อย่างมากเกินไป”[24] ราชีพ มสันท์ จาก CNN-IBN ระบุว่าพลังของภาพยนตร์แท้จริงอยู่ใน “บทภาพยนตร์ที่แข็งแกร่ง มีราก และน่าจดจำ“ ซึ่งช่วยให้ภาพยนตร์สร้าง ”ประสบการณ์ที่มีอารมณ์ร่วมและอบอุ่นหัวใจเช่นนี้”[25] มนิศ คัชชร (Manish Gajjar) จาก BBC ระบุว่าภาพยนตร์ ”เข้าใจสัมผัสจิตใจของคุณ และผลักคุณให้ลุ่มหลงเข้าไปด้วยการแสดงที่ล้ำเลิศ”[26] ชัสปรีต ปัณโฆหร (Jaspreet Pandohar) จาก BBC เช่นกัน ได้ชี้ให้เห็นว่าภาพยนตร์นี้ “ผลักตัวออกมาไกลมากจากภาพยนตร์กลิ่นมาซาล่าที่ผลิตซ้ำ ๆ เป็นสูตรจากจักรกรบอลลีวูด”[27]
ในเชิงวิชาการ
[แก้]ในบทความ "Taare Zameen Par and dyslexic savants" ตีพิมพ์บนวารสารสถาบันประสาทวิทยาอินเดีย (Annals of Indian Academy of Neurology) อัมพร จักรวรรติ (Ambar Chakravarty) เขียนถึงลักษณะของโรคดังที่ปรากฏในภาพยนตร์โดยทั่วไปว่ามีความถูกต้องกับโรคดิสเล็กเซีย อย่างไรก็ตาม การที่อิศานมีปัญหากับปัญหาเลขคณิตอย่างง่ายอาจเป็นลักษณะของโรคดิสคัลคูเลียมากกว่าดิสเล็กเซีย แต่อาจแสดงออกมาเช่นนั้นเพื่อเน้นย้ำว่า “อิศานขาดความช่วยเหลือและมีความบกพร่อง” และระบุว่าอิศานเป็นตัวอย่างหนึ่งของกลุ่มอาการ “ดิสเล็กซิกซาวองต์” ("dyslexic savant syndrome") และยังชื่นชมความสามารถทางศิลปะและการเติบโตของอิศานหลังได้รับความช่วยเหลือจากครูนิกุมภ์[28]
ในสาธารณะ
[แก้]ภาพยนตร์ช่วยยกการรับรู้ปัญหาของโรคดิสเล็กเซียขึ้นอย่างมาก และนำไปสู่การพูดคุยถึงปัญหานี้ในระดับครอบครัวจนถึงนโยบายในอินเดีย อัญชุลี พาวา (Anjuli Bawa) ผู้ปกครองและนักกิจกรรมผู้ก่อตั้ง แอ็กชั่นดิสเล็กเซียเดลี (Action Dyslexia Delhi) กล่าวว่าจำนวนผู้ปกครองที่มายังสำนักงานอของเธอเพิ่มขึ้นสิบเท่าในช่วงเดือนหลังภาพยนตร์ออกฉาย[29]
ภาพยนตร์ถูกประท้วงไม่ให้ออกฉาย เนื่องมาจากจุดยืนของข่านที่สนับสนุนนรรมทา บจาโอ อันโทลัย และวิพากษ์วิจารณ์รัฐมนตรีประจำรัฐคุชราต นเรนทร โมที[30][31] นักเคลื่อนไหวราว 50 คน ประท้วงหน้าโรงภาพยนตร์ในเครือ PVR และ INOX ในวโททรา รัฐคุชราต และออกแถลงการณ์ให้โรงภาพยนตร์ทั้งหมดในรัฐคุชราตไม่ฉายภาพยนตร์เรื่องนี้จนกว่าข่านจะออกแถลงการณ์ขอโทษที่วิจารณ์นเรนทร โมที[30][32] เครือ INOX ท้ายที่สุดยอมงดฉายภาพยนตร์เรื่องนี้ โดยผู้บริหาร ปุษเปนทร สิงห์ ราโฐถ (Pushpendra Singh Rathod) ระบุว่า “เครือ INOX อยู่ข้างรัฐคุชราต“[30]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ "TAARE ZAMEEN PAR (PG) – British Board of Film Classification". 17 December 2007. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 29 October 2013. สืบค้นเมื่อ 23 October 2012.
- ↑ 2.0 2.1 Vij, Gauri (3 February 2008). "A leap of faith". The Hindu. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 7 April 2008. สืบค้นเมื่อ 11 April 2008.
{{cite web}}
: CS1 maint: unfit URL (ลิงก์) - ↑ "In 2002, Taare Zameen Par was still called and registered as High Jump". Bollywood Hungama. 28 January 2008. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 21 May 2008. สืบค้นเมื่อ 27 July 2010.
- ↑ Like Stars on Earth DVD commentary. Event occurs at approximately 16:00
- ↑ Like Stars on Earth DVD commentary. Event occurs at approximately 40:00
- ↑ Like Stars on Earth DVD commentary. Event occurs at approximately 2:27:00
- ↑ 7.0 7.1 "Aamir bends the rules". DNA. 24 December 2007. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 1 September 2012. สืบค้นเมื่อ 21 April 2008.
- ↑ 8.0 8.1 Patel, Devansh (18 December 2007). "TZP makes me a proud actor, producer and a director". Bollywood Hungama. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 5 December 2008. สืบค้นเมื่อ 12 May 2009.
- ↑ Like Stars on Earth DVD commentary. Event occurs at approximately 20:00
- ↑ Like Stars on Earth DVD commentary. Event occurs at approximately 10:15
- ↑ Like Stars on Earth DVD commentary. Event occurs at approximately 15:15
- ↑ Like Stars on Earth DVD commentary. Event occurs at approximately 2:45
- ↑ Like Stars on Earth DVD commentary. Event occurs at approximately 48:00
- ↑ Like Stars on Earth Bonus Disc: The Making.... Event occurs at approximately 10:00
- ↑ Like Stars on Earth (DVD). Walt Disney Studios Home Entertainment. 12 January 2010.
- ↑ Like Stars on Earth DVD commentary. Event occurs at approximately 23:00
- ↑ Like Stars on Earth Bonus Disc: The Making.... Event occurs at approximately 11:00
- ↑ Like Stars on Earth Bonus Disc: The Making.... Event occurs at approximately 16:00
- ↑ Like Stars on Earth Bonus Disc: The Making.... Event occurs at approximately 35:00
- ↑ Like Stars on Earth DVD commentary. Event occurs at approximately 1:11:30
- ↑ Like Stars on Earth Bonus Disc: The Making.... Event occurs at approximately 18:00
- ↑ Like Stars on Earth DVD commentary. Event occurs at approximately 2:14:00
- ↑ "ดวงดาวเล็ก ๆ บนผืนโลก". Rotten Tomatoes. Fandango Media. สืบค้นเมื่อ July 18, 2022.
- ↑ Jha, Subhash (27 December 2007). "Subhash K Jha speaks about Taare Zameen Par". Bollywood Hungama. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 9 May 2008. สืบค้นเมื่อ 12 January 2010.
- ↑ Masand, Rajeev (21 December 2007). "Taare Zameen Par may change your life". IBN-CNN. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 23 June 2008. สืบค้นเมื่อ 10 April 2008.
- ↑ Gajjar, Manish. "Taare Zameen Par (2007)". BBC. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 5 January 2008. สืบค้นเมื่อ 6 January 2008.
- ↑ Pandohar, Jaspreet (18 December 2007). "Taare Zameen Par (2007)". BBC. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 7 March 2008. สืบค้นเมื่อ 8 April 2008.
- ↑ Chakravarty, Ambar (2009). "Taare Zameen Par and dyslexic savants". Annals of Indian Academy of Neurology. 12 (2): 99–103. doi:10.4103/0972-2327.53077. PMC 2812748. PMID 20142854.
- ↑ Lakshmi, Rama (4 June 2008). "The Pain of Dyslexia, As Told by Bollywood, Page 1". The Washington Post. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 11 November 2012. สืบค้นเมื่อ 22 October 2010.
- ↑ 30.0 30.1 30.2 "Taare Zameen Par banned in Vadodara multiplex". Yahoo! India Movies. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 28 July 2010. สืบค้นเมื่อ 27 July 2010.
- ↑ "Anti-Modi remarks haunts Aamir Khan before release of 'Taare Zameen Par' in Gujarat". Yahoo! India Movies. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 28 July 2010. สืบค้นเมื่อ 27 July 2010.
- ↑ "TZP runs into trouble in Gujarat". Yahoo! India Movies. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2 March 2008. สืบค้นเมื่อ 27 July 2010.