ข้ามไปเนื้อหา

ผลต่างระหว่างรุ่นของ "อิมามะฮ์"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Chalalai akulkel (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
InternetArchiveBot (คุย | ส่วนร่วม)
Rescuing 1 sources and tagging 0 as dead.) #IABot (v2.0.9.5
(ไม่แสดง 31 รุ่นระหว่างกลางโดยผู้ใช้ 7 คน)
บรรทัด 1: บรรทัด 1:
'''อิมามะฮ์''' ({{lang-ar|إمامة}}) หรือ ตำแหน่งการเป็นผู้นำ ตัวแทนท่านศาสดา (ศ) ถือเป็นหนึ่งในหลักศรัทธาของอิสลามนิกายชีอะฮ์ และเนื่องจากความสำคัญยิ่งยวดของหลักศรัทธาข้อนี้ พวกเขาจึงมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า กลุ่มอิมามียะฮ์<ref>ซัยยิดมุรตะฏอ. อำนาจการปกครองของอิมามอลีในโองการและฮะดีษ. สำนักพิมพ์มุนีร, พิมพ์ครั้งที่ 7.</ref>
'''อิมามัต-ตำแหน่งการเป็นผู้นำ <br>
'''ถือเป็นหนึ่งในหลักศรัทธาของอิสาลามนิกายชีอะฮ์ และเนื่องจากความสำคัยอันยิ่งยวดของหลักศรัทธาข้อนี้พวกเขาจึงเรียกอีกกชื่อหนึ่งว่า กลุ่ม อิมามียะฮ์.
<ref>ซัยยิดมุรตะฏอ ، อำนาจการปกครองของอิมามอลีในโองการและฮะดีษ، สำนักพิมพ์ มุนีร ، พิมพ์ครั้งที่7</ref>คำว่า อิมามัตตามรากศัพท์ภาาอาหรับ หมายถึง ผู้นำ และตามจริงแล้วทุกประชาชาติและกลุ่มชนไม่สามารถอยู่ได้โดยปราสจากผู้นำ.


คำว่า อิมามะฮ์ ตามรากศัพท์ภาษาอาหรับ หมายถึง ผู้นำ และตามจริงแล้วทุกประชาชาติและกลุ่มชนไม่สามารถอยู่ได้โดยปราศจากผู้นำ
หลักศรัทธาชองนิกายชีอะฮ์ :
เตาฮีด,นุบูวัต,มะอาด,อัดล์และ อิมามัต


หลักศรัทธาชองนิกายชีอะฮ์ : เตาฮีด, นุบูวัต, มะอาด, อัดล์ และอิมามะฮ์
บรรดาชีอะฮ์จะอ้างอิงความเชื่อทั้งหมดของพวกเขาจากโองการในพระมหา[[คัมภีร์]][[อัลกุรอ่าน]]และในเรื่องของอิมามัตก้เช่นเดียวกัน.


บรรดาชีอะฮ์จะอ้างอิงความเชื่อทั้งหมดของพวกเขาจากโองการในพระมหา[[คัมภีร์]][[อัลกุรอาน]]และในเรื่องของอิมามะฮ์ก็เช่นเดียวกัน
== อิมามัต-ตำแหน่งผู้นำในคัมภีร์[[อัลกุรอ่าน]] ==

* ในโองการที่24 วเราะห์ อัซซัจาดะฮ์ ได้กล่าวไว้ว่า:
== อิมามะฮ์-ตำแหน่งผู้นำในคัมภีร์[[อัลกุรอาน]] ==
وَجَعَلْنَا مِنْهُمْ أَئِمَّةً يَهْدُونَ بِأَمْرِنَا لَمَّا صَبَرُوا وَكَانُوا بِآيَاتِنَا يُوقِنُونَ  
* ในโองการที่24 ซูเราะห์ อัสสัจญ์ดะฮ์ ได้กล่าวไว้ว่า:
  อัส-สัจญ์ดะฮฺ - 24
وَجَعَلْنَا مِنْهُمْ أَئِمَّةً يَهْدُونَ بِأَمْرِنَا لَمَّا صَبَرُوا وَكَانُوا بِآيَاتِنَا يُوقِنُونَ
อัส-สัจญ์ดะฮฺ - 24
และเราได้จัดให้มีหัวหน้าจากพวกเขา เพื่อจะได้ชี้แนะแนวทางที่ถูกต้องตามคำบัญชาของเรา ในเมื่อพวกเขามีความอดทนและพวกเขาเชื่อมั่นต่ออายาตทั้งหลายของเรา
และเราได้จัดให้มีหัวหน้าจากพวกเขา เพื่อจะได้ชี้แนะแนวทางที่ถูกต้องตามคำบัญชาของเรา ในเมื่อพวกเขามีความอดทนและพวกเขาเชื่อมั่นต่ออายาตทั้งหลายของเรา


<ref>มุฮ์ซิน , กิรออัตตี ตัฟซีร นูร , เล่ม7, หน้า318.</ref>
<ref>محسن قرائتی، تفسیر نور، مركز فرهنگى درسهايى از قرآن، ۱۳۸۳ ش، چاپ يازدهم جلد ۷ُ صفحه ۳۱۸.</ref>
* ในซูเราห์ อัลบะกอเราห์ โองการที่124ก็ได้กล่าวไว้เช่านเดียวกันว่า:
* ในซูเราห์ อัลบะเกาะเราะฮ์ โองการที่124ก็ได้กล่าวไว้เช่านเดียวกันว่า:
وَإِذِ ابْتَلَىٰ إِبْرَاهِيمَ رَبُّهُ بِكَلِمَاتٍ فَأَتَمَّهُنَّ قَالَ إِنِّي جَاعِلُكَ لِلنَّاسِ إِمَامًا قَالَ وَمِن ذُرِّيَّتِي قَالَ لَا يَنَالُ عَهْدِي الظَّالِمِينَ   
وَإِذِ ابْتَلَىٰ إِبْرَاهِيمَ رَبُّهُ بِكَلِمَاتٍ فَأَتَمَّهُنَّ قَالَ إِنِّي جَاعِلُكَ لِلنَّاسِ إِمَامًا قَالَ وَمِن ذُرِّيَّتِي قَالَ لَا يَنَالُ عَهْدِي الظَّالِمِينَ
อัลบะเกาะเราะฮ์ - 124
อัล-บะเกาะเราะฮ -  124
และจงรำลึกถึง ขณะที่พระเจ้าของอิบรอฮีมได้ทดสอบเขา ด้วยพระบัญชาบางประการ แล้วเขาก็ได้สนองตามพระบัญชานั้นโดยครบถ้วน พระองค์ตรัสว่า แท้จริงข้าจะให้เจ้าเป็นผู้นำมนุษย์ชาติ เขากล่าวว่า และจากลูกหลานของข้าพระองค์ด้วย พระองค์ตรัสว่า สัญญาของข้านั้นจะไม่ได้แก่บรรดาผู้อธรรม.
และจงรำลึกถึง ขณะที่พระเจ้าของอิบรอฮีมได้ทดสอบเขา ด้วยพระบัญชาบางประการ แล้วเขาก็ได้สนองตามพระบัญชานั้นโดยครบถ้วน พระองค์ตรัสว่า แท้จริงข้าจะให้เจ้าเป็นผู้นำมนุษย์ชาติ เขากล่าวว่า และจากลูกหลานของข้าพระองค์ด้วย พระองค์ตรัสว่า สัญญาของข้านั้นจะไม่ได้แก่บรรดาผู้อธรรม.


== อิมามัต-(ตำแหน่งผู้นำ)ใน[[ฮะดีษ]] ==
== อิมามะฮ์ (ตำแหน่งผู้นำ) ใน[[ฮะดีษ]] ==
* ในตำราฮะดีษของสายอะฮลิซซุนนะฮ์  ศอเฮียะฮ์บุคคอรีและศอเฮียะฮ์มุสลิม,มุสนัด ตอยาลีซี และ อะฮ์หมัด อิบนิ ฮันบัล,ซุนันติรมีซี และ อิบนิ มาญะฮ์ และตำราอ้างอิงฮะดีษอื่นๆระบุไว้ว่าท่านศาสดา(ศ)ได้กล่าวกับอิมามอลีว่า: เจ้าสำหรับข้าเปรียบเสมือนฮารูนสำหรับอิบรอฮีม แตกต่างกันตรงที่หลังจากฉันจะไม่มีนบีอีกแล้วเท่านั้น <ref>صحیح بخاری، باب مناقب علی ابن ابی طالب، ج ۲ / ۲۰۰</ref>
* ในตำราฮะดีษของสายอะฮลิซซุนนะฮ์ ศอเฮียะฮ์บุคคอรีและศอเฮียะฮ์มุสลิม, มุสนัด ตอยาลีซี และ อะฮ์หมัด อิบนิ ฮันบัล, ซุนันติรมีซี และ อิบนิ มาญะฮ์ และตำราอ้างอิงฮะดีษอื่น ๆ ระบุไว้ว่าท่านศาสดา (ศ) ได้กล่าวกับอิมามอาลีว่า: เจ้าสำหรับข้าเปรียบเสมือนฮารูนสำหรับอิบรอฮีม แตกต่างกันตรงที่หลังจากฉันจะไม่มีนบีอีกแล้วเท่านั้น <ref>ศอเฮี้ยะฮ์บุคอรี , หัวข้อ ความประเสริฐของอลี อิบนิ อบี ตอลิบ , เล่ม2/200</ref>


== จำนวนของอิมาม ==
== จำนวนของอิมาม ==
ชีอะฮ์อ้างอิงรายงานจากจาบิร อันศอรี และจากรายงานของท่านอื่น ๆ มีความเชื่อว่าอิมามทั้งหมดมีสิบสองท่านซึ่งถูกเลือกจากพระองค์[[อัลลอฮ์]] (ซ.บ.) และได้รับการแต่งตั้งตั้งแต่ในยุคของ[[ศาสดา]][[มุฮัมมัด|มุฮัมมัด]] (ศ) นักวิชาการบางท่านอ้างอิงประเด็นการเป็นอิมามจาะฮะดีษษะกอลัยน์ ตัวอย่างเช่น ท่านมุสลิมบันทึกไว้ในตำราฮะดีษของเขาว่ารายงานจากท่านญาบิรบิน ษะมะเราะห์ ที่กล่าวว่าฉันได้ยินมาจากท่านศาสดา (ศ) ว่าท่านกล่าวว่า :


ศาสนานี้จะดำเนินสืบต่อไปจนกว่าจนกว่าอิมามทั้งสิบสองท่านจะขึ้นมาดำรงค์ตำแหน่งคอลีฟะฮ์, ซึ่งคอลีฟะฮ์เหล่านี้ล้วนมาจากเผ่ากุเรชทั้งสิ้น.
== รายชื่อิมามทั้งสิบสองท่าน ==
<blockquote class="">ชีอะฮ์อ้างอิงรายงานจาก จาบิร อันศอรี และจากรายงานของท่านอื่นๆมีความเชื่อว่าอิมามทั้งหมดมีสิบสิงท่านซึ่งถูกเลือกจากพระองค์[[อัลลอฮ์]](ซ.บ.)และแต่งตั้งตั้งแต่ในยุคของท่าน[[ศาสดา]][[มุฮัมมัด|มุฮัมหมัด]](ศ)นักวิชาการบางท่านอ้างอิงประเด็นการเป็นอิมามจาะฮะดีษษะกอลัยน์ ตัวอย่างเช่น ท่านมุสลิมบันทึกไว้ในตำราฮะดีษของเขาว่ารายงานจากท่านจาบิรบิน ษะมะเราะห์ ที่กล่าวว่าฉันได้ยินมาจากท่านศาสดา(ศ)ว่าท่านกล่าวว่า:</blockquote>ศาสนานี้จะดำเนินสืบต่อไปจนกว่าจนกว่าอิมามทั้งสิบสองท่านจะขึ้นมาดำรงค์ตำแหน่งคอลีฟะฮ์,ซึ่งคอลีฟะฮ์เหล่านี้ล้วนมาจากเผ่ากุเรชทั้งสิ้น.<ref>มุสลิม,ศอเฮียะฮ์มุสลิม,เล่ม3,1453,ฮะดีษบทที่1821 </ref>


ในริวายัตอีกบทหนึ่งทานศาสดา(ศ)ได้กล่าวว่า:การงาานของปราชาชาติในยุคนี้จะราบรื่นเสมอจนกว่าคอลีฟะฮ์ทั้งสิบสองท่านนี้จะจากไป<ref>มุนตะคอบ คอนซุลอุมมาล,เล่ม5,321</ref>
ในริวายัตอีกบทหนึ่ง ศาสดา (ศ) ได้กล่าวว่า : การงานของประชาชาติในยุคนี้จะราบรื่นเสมอจนกว่าคอลีฟะฮ์ทั้งสิบสองท่านนี้จะจากไป

== รายชื่ออิมามทั้งสิบสองท่าน ==
<blockquote class="">ชีอะฮ์อ้างอิงรายงานจาก จาบิร อันศอรี และจากรายงานของท่านอื่น ๆ มีความเชื่อว่าอิมามทั้งหมดมีสิบสิงท่านซึ่งถูกเลือกจากพระองค์[[อัลลอฮ์]] (ซ.บ.) และแต่งตั้งตั้งแต่ในยุคของท่าน[[ศาสดา]][[มุฮัมมัด|มุฮัมมัด]] (ศ) นักวิชาการบางท่านอ้างอิงประเด็นการเป็นอิมามจาะฮะดีษษะกอลัยน์ ตัวอย่างเช่น ท่านมุสลิมบันทึกไว้ในตำราฮะดีษของเขาว่ารายงานจากท่านจาบิรบิน ษะมะเราะห์ ที่กล่าวว่าฉันได้ยินมาจากท่านศาสดา (ศ) ว่าท่านกล่าวว่า:</blockquote>ศาสนานี้จะดำเนินสืบต่อไปจนกว่าจนกว่าอิมามทั้งสิบสองท่านจะขึ้นมาดำรงค์ตำแหน่งคอลีฟะฮ์, ซึ่งคอลีฟะฮ์เหล่านี้ล้วนมาจากเผ่ากุเรชทั้งสิ้น.<ref>มุสลิม, ศอเฮียะฮ์มุสลิม, เล่ม3, 1453, ฮะดีษบทที่1821 </ref>

ในริวายัตอีกบทหนึ่งทานศาสดา (ศ) ได้กล่าวว่า:การงาานของปราชาชาติในยุคนี้จะราบรื่นเสมอจนกว่าคอลีฟะฮ์ทั้งสิบสองท่านนี้จะจากไป<ref>มุนตะคอบ กันซุลอุมมาล, เล่ม5, 321</ref>


รายชื่อมีดังต่อไปนี้:
รายชื่อมีดังต่อไปนี้:


อิมามจุวัยนีรายงานจากอับดุลลอฮ์ อิบนิอับบาส ว่าทานศาสดา(ศ)กล่าวว่า:
อิมามญุวัยนีรายงานจากอับดุลลอฮ์ อิบนิอับบาส ว่าทานศาสดา (ศ) กล่าวว่า:
ฉันเป็นหัวหน้าของบรรดาอัมบิยา(ศาสดา)ทั้งหลายและอลี อิบนิ อบีตอลิบเป็นหัวหน้าของเอาศิยา(ตัวแทนศาสดา)ทั้งหลายและเอาศิยาเหล่านี้มีทั้งหมดสิบสองท่านคนแรกของพวกเขาคืออลี อิบนิ อบี ตอลิบ และคนสุดท้ายของพวกเขาคือ มะฮ์ดี.
ฉันเป็นหัวหน้าของบรรดาอัมบิยา (ศาสดา) ทั้งหลายและอลี อิบนิ อบีตอลิบเป็นหัวหน้าของเอาศิยา (ตัวแทนศาสดา) ทั้งหลายและเอาศิยาเหล่านี้มีทั้งหมดสิบสองท่านคนแรกของพวกเขาคืออลี อิบนิ อบี ฎอลิบ และคนสุดท้ายของพวกเขาคือ มะฮ์ดี.
อิมามจุวัยนยังรายงานต่อจากสายรายงานเดิมอีกว่าฉันได้ยินจากศาสดา(ศ)ที่ท่านกล่าว่า:
อิมามญุวัยนยังรายงานต่อจากสายรายงานเดิมอีกว่าฉันได้ยินจากศาสดา (ศ) ที่ท่านกล่าว่า:
ฉัน อลี และ ฮะซัน และบุตรอีกเก้าคนจากเชื้อสายของฮุเซน คือผู้บริสุทธิ์ และไร้มลทิน.
ฉัน อลี และ ฮะซัน และบุตรอีกเก้าคนจากเชื้อสายของฮุเซน คือผู้บริสุทธิ์ และไร้มลทิน.
1-อะลี อิบน์ อะบี ฏอลิบ บุตรของอะบูฏอลิบ ผู้เป็นลูกพี่ลูกน้องของนบีมุฮัมมัด นบีได้ชุบเลี้ยงมาตั้งแต่ยังเยาว์ เป็นผู้แรกที่ศรัทธาต่อศาสนาอิสลาม ภายหลังสมรสกับท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ ธิดานบีมุฮัมมัด <div>2-ฮะซัน บุตรของอะลีย์ และฟาฏิมะหฺ</div><div>3- ฮุเซน บุตรของอะลีย์ และฟาฏิมะหฺ น้องชายของฮะซัน 4-อะลีย์ ซัยนุลอาบิดีน บุตรอิมามที่ 3</div><div>5- มุฮัมมัด อัลบากิร บุตรอิมามที่ 4 </div><div>6-ญะอฺฟัร อัศศอดิก บุตรอิมามที่ 5 </div><div>7-มูซา อัลกาซิม บุตรอิมามที่ 6 </div><div>8-อะลีย์ อัรริฎอ บุตรอิมามที่ 7</div><div>9- อัตตะกีย์ บุตรอิมามที่ 8 10-อัลฮาดี บุตรอิมามที่ 9</div><div>11- ฮะซัน อัลอัสกะรีย์ บุตรอิมามที่ 10 </div><div>12-มุฮัมมัด อัลมะฮ์ดี บุตรอิมามที่ 11 (เชื่อว่าเป็นมะฮ์ดี)</div>
* 1-อาลี อิบน์ อะบี ฏอลิบ บุตรของอะบูฏอลิบ ผู้เป็นลูกพี่ลูกน้องของนบีมุฮัมมัด นบีได้ชุบเลี้ยงมาตั้งแต่ยังเยาว์ เป็นผู้แรกที่ศรัทธาต่อศาสนาอิสลาม ภายหลังสมรสกับท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ ธิดานบีมุฮัมมัด
* 2-ฮะซัน บุตรของอะลีย์ และฟาฏิมะหฺ
* 3- ฮุเซน บุตรของอะลีย์ และฟาฏิมะหฺ น้องชายของฮะซัน
* 4-อาลี ซัยนุลอาบิดีน บุตรอิมามที่3
* 5- มุฮัมมัด อัลบากิร บุตรอิมามที่ 4
* 6-ญะอฺฟัร อัศศอดิก บุตรอิมามที่ 5
* 7-มูซา อัลกาซิม บุตรอิมามที่ 6
* 8-อาลี อัรริฎอ บุตรอิมามที่ 7
* 9- อัตตะกีย์ บุตรอิมามที่ 8
* 10-อัลฮาดี บุตรอิมามที่ 9
* 11- ฮะซัน อัลอัสกะรีย์ บุตรอิมามที่ 10
* 12-มุฮัมมัด อัลมะฮ์ดี บุตรอิมามที่ 11


=== คุณสมบัติต่างๆ ===
=== คุณสมบัติต่าง ๆ ===
# ความบริสุทธิ์ : ปราศจากความผิดบาปของอิมามทั้งสิบสองท่านรวมถึงท่านศาสดาและท่านหญิงฟาติมะฮ์ทั้งหมดเป็นสิบสี่ท่าน, จากนัยยะและการอธิบายของโองการตัฎฮีรหมายถึงโองการที่33 ซูเราะห์ อะห์ซฺาบ บ่งชี้ว่าพวกท่านเหล่านี้ปราศจากความผิดบาปทุกประเภทอย่างไม่มีเงื่อนไขใด ๆ ไม่ว่าจะเป็นบาปเล็กหรือบาปใหญ่ก็ตามเพราะการเป็นผู้นำและแบบฉบับนั้นจะต้องเป็นผู้ที่ปราศจากข้อผิดพลาดทุกประการจึงจะเป็นข้อพิสูจน์สำหรับผู้อื่นได้.
# ความยุติธรรม :
# ความรู้ :
# การเป็นข้อพิสูจน์ :
# การเป็นผู้นำ :


=== หน้าที่ความรับผิดชอบ ===
=== หน้าที่ความรับผิดชอบ ===
1- '''การเป็นศูนย์กลางทางด้านศาสนา'''
* 1- '''การเป็นศูนย์กลางทางด้านศาสนา'''ในมุมมองของชีอะฮ์ หลังจากการบัญญัติทางศาสนาเสร็จสิ้นแล้วโดยท่านศาสดา(ศ)การอธิบายความและการเติมคำให้สมบูรณ์ของ ค Canonization [[ศาสนา|ของศาสนา]] นโดยผู้พยากรณ์ล่ะก็ตีความแบบนั้นของมันและส่งการตอบกลับไปยังใหม่เรื่องมาที่ต้องการพิเศษคุณสมบัติต่างๆซึ่งรวมสวิทยาศาสตร์ต้องศาสนาและ ค infallibility การทำบาปหรอก วันตั้งอยู่เหนือลักษณะเฉพาะ [[อิมาม (ชีอะฮ์)|ที่ imams]] มีคุณสมบัตินี้นะ พวกเขาจากพระเจ้าอะไรของศาสนานี้สำหรับคนของคำอธิบายและคนมีคำถามจะถามตอนที่พวกเขาจับ(Surah Nisaเป็นต้น ท่องคาถาไล่ปิศาจ ۸۳ น) นี่อำนาจกับอำนาจปล่อยให้สายตาของ Shia อยู่แล้วที่คล้ายกันในรูปลักษณ์และโปรแกรมเบื้องหลังมันต่างกัน Sunnis ไม่มีสถานที่แบบนั้นในศาสนาไม่เชื่อว่าคนที่อาจจะซ้อมจากพื้นฐานของความเข้าใจในบการจัดการธุรกิจของศาสนาโบราณเอ่ออาการป่วยของแม่ลูก
* ۲- '''ที่เป็นผู้นำของสังคม(แสดงตัวอย่างคือ)''':นี้ระหว่างสงครามแย่งชิงยุทธศาส shias และ Sunnis เหมือนกัน ในแง่ที่ว่าทั้งสองคนที่ขาดไม่ของการดำรงอยู่ของสถานที่แบบนั้นอยู่ในมุสลิมชุมชนเห็นด้วย ประเพณีของมันเรียกว่า"Caliph"โทรมา พวกเขาเป็นเพื่อนคนของ Caliph trait และที่พิเศษที่มีคุณสมบัติของคนไม่ใช่ทางเลือกของเขา"สภา","คนของทางออกและสัญญา"และ"administrate"และบางคนต้อง"เอาชนะ"เหมือน ทั่วประวัติศาสตร์หลายชื่อดาบที่สำคัญแสดงสิทธิที่จะยึดอำนาจรัฐบาล หลายของ caliphs ฆ่าและกี่คำสั่ง แต่สายตาของ Shia แต่ควรแล้ว ไม่นะ ผู้บริสุทธิ์และหนึ่ง ขึ้นมาจากศาสนาของผู้พิพากษาและไม่ต้องสงสัยที่ admissibility ไม่ได้และผู้คนจำเป็นต้องเชื่อฟังเขา(Surah เป็-Nisa ท่องคาถาไล่ปิศาจ ۵۹)สงครามแย่งชิงยุทธศาสของ wilayat อัล-faqih ความคล้ายคลึงกันของรูปลักษณ์และความแตกต่างของตนภายใน. Shiites เชื่อว่าคนที่แต่คือพระเจ้าได้รับเลือกโดยผู้พยากรณ์หรือ Imam ก่อนหน้านี้จะเป็นคนแนะนำตัว ที่ Caliphate ที่ถูกต้องของเขาและคนอื่นนั่งบัลลังก์ของดีนะที่ไม่ทำรูปแกะสลัก usurping น Cite พวกเขาท่องคาถาไล่ปิศาจ"انما รรทัดของและของสาปของ یقیمون ของเขา یؤتون الزکوةوهم สรุป"ว(ยกเว้นมันไม่ใช่เรื่องที่ทำตัว شمافقط อัลเลาะห์และเขาส่งเอกสารแล้วผู้ที่เชื่อและเป็นก้มหัวรสวดมนต์องจ่ายที่น่าสงสาร-อัตราการ)(คำภีร์พระธรรมวิวรณ์ ท่องคาถาไล่ปิศาจ ۵۵)Shia Islam และนี่ลงท่อต้อง [[อะลี อิบน์ อะบี ฏอลิบ|อลิสั]] นรู้. นั่นมันอยู่ใน ruku ของภาวนาจะจบอดัมเป็น shoestring งบประมาณสำหรับเรื่องนี้ ที่เพิ่มมานอกเหนือจากนี่ลงท่อนเล่นการเมือง socio-ทางเศรษฐกิจแสดงตัวอย่างก็สำหรับกำหนบนเตียงและระหว่างการปรับแก้ขอบการจัดการธุรกิจของชาวมุสลิงและจับกุมพวกเขาพร้อมกับบูชาของพระองค์รวมตัวกัน
* ۳- '''ขอ kufr''':มันคือความรับผิดชอบที่จะคอนเซ็ปต์ของ esoteric แสดงตัวอย่าเกี่ยวข้องกันและสำคัญอย่างเช่น แก้ต่าง เพื่อรวมถึง (ที่นิยามของอลิ bin ABI Talib)


ในมุมมองของชีอะฮ์ หลังจากการบัญญัติทางศาสนาเสร็จสิ้นแล้วโดยท่านศาสดา (ศ) อิมามมะอฺศูม (อ) จะเป็นผู้ที่ถ่ายทอดและอรรฐาธิบายวิชาการทางศาสนาในเรื่องปลีกย่อยต่าง ๆ ที่ต้องได้มาจากผู้ที่ปราศจากการบิดเบือนหรือคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริงแก่ประชาชน
=== ช่วงต่างๆของการดำรงค์ตำแหน่ง ===
; รายชื่อผู้ดำรงค์ตำแหน่งสิบสองท่านในปีต่างๆ


2- '''การเป็นผู้นำ-ผู้ปกครองของสังคม''' :
; <small>توضیحات</small>


ความเป็นผู้นำคำนี้ถือเป็นคำที่เข้าใจเหมือนกันในหมู่มุสลิมทั้งชีอะฮ์และอะฮ์ลิซซุนนีะฮ์ หมายถึงการยอมรับว่าสังคมจะต้องมีบุคคลหนึ่งที่มาเป็นผู้นำทางสังคมโยที่ฝ่ายอะฮ์ลิซซุนนะฮ์จะเรียกโยใช้คำว่า (คอลีฟะฮ์) โดยที่พวกเขายอมรับว่าให้มีตำแหน่งนี้จากากรเลือกโดยตัวแทนของสังคมหมายถึงเหล่าสาวกในยุคนั้น (ชูรอ) วึ่งณตอนนั้นถือเป็นประเด็นถกเถียงและขัดแย้งกันอย่างมากในหมู่สาวกของท่าศาสดา (ศ) ถึงขั้นที่มีสาวกบางท่านยกดาบฟาดฟัดกันเพื่อได้มาซึ่งตำแหน่งนี้, แต่ในมุมมองของชีอะฮ์ บุคคลดังกล่าวจะต้องมีคุณสมบัติต่าง ๆ ที่เหมาะสมทั้งมนด้านของความรู้ความเข้าใจอย่างถ่องแท้ต่อศาสนา, ต้องเป็นผู้บริสุทธิ์, เป็นผู้ที่มีความยุติธรรมและมีหลักฐานยืยยันการเป็นตัวแทนของเขาเพื่อที่จะสามารถวินิจฉัยและชี้นำอิสลามได้อย่างถูกต้องและตามมาซึ่งหน้าที่ของประชาชนในการยอมรับและปฏิบัติตามลำดับต่อไป
== อิมามัตกับการปกครองของราชวงศ์ต่างๆ ==
طبق منابع متعدد مورد تایید شیعه، امامان یاران نزدیکی داشته‌اند که بدون برنامه ریزی و از روی گرایش محبت به خاندان امامت، درباره‌ی همکاری خود با دستگاه حکومتیِ خلافت، با امامان مشورت کرده و در عمل به نیروی نفوذی امامان در دستگاه حکومتی تبدیل می‌شده‌اند و از توطئه‌ها و دسیسه‌های خلفا در قبال امامان به آن‌ها خبر می‌داده‌اند.<ref>http://rasekhoon.net/article/show/1357147/سیره-معصومان-در-نفوذ-و-کشف-توطئه-های-دشمنان
</ref>


ตามที่โองการ 59 ซูเราะห์นิซาอ์ :
== Bibliography ==

* [http://www.al-haqaeq.com/farsi/library/lib-sec.php?secid=1 کتابخانه امامت] سید علی حسینی میلانی
'''''บรรดาผู้มีศรัทธา! จงเชื่อฟังอัลลอฮฺ และเชื่อฟังศาสนทูต และผู้ปกครองในหมู่พวกเธอเถิด แต่ถ้าพวกเธอขัดแย้งกันในสิ่งใด ก็จงนำสิ่งนั่นกลับไปยังอัลลอฮฺและศาสนทูต หากพวกเธอศรัทธาต่ออัลลอฮฺและวันปรโลก นั่นแหละเป็นสิ่งที่ดียิ่งและเป็นการกลับไปที่สวยงามยิ่ง'''''

และโองการที่55ซูเราะห์มาอิดะฮ์:

'''''อันที่จริง มิตรของพวกเธอนั้นคืออัลลอฮฺ และศาสนทูตของพระองค์และบรรดาผู้มีศรัทธาที่ดำรงไว้ซึ่งการนมาซ และชำระซะกาต และขณะเดียวกันพวกเขาก็เป็นผู้ก้มรุกูอฺ'''''

3- '''การเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณ''':

หมายถึงการที่พวกท่านสามารให้การอนุเคราะห์และช่วยเหลือผู้อื่นได้เนื่องจากฐานันดรอันสูงส่งที่พวกท่านมีณเอกองค์อัลลอฮ์ (ซ.บ.)

=== การดำรงตำแหน่งในยุคสมัยต่าง ๆ ของพวกท่าน : ===
ช่วงเริ่มต้นของตำแหน่งอิมามะฮ์จนยุคของการเร้นกายของอิมามท่านที่สิบสองมีสี่ยุคสมัยดังต่อไปนี้:
# '''ยุคของมีอยู่ของอิมาม''' เริ่มตั้งแต่สมัยของอิมามอลี (อ) จนถึงการเร้นกายของอิมามมะฮ์ดี (อ) <ref>มุฏอฮรี , มุรตะฏอ, อิมามะฮ์ วะ ระฮ์บะรี </ref>
# '''ยุคของการเร้นกาย''' เริ่มตั้งแต่การเร้นกายระยะสั้นของอิมามมะฮ์ดีย์ (อ) ครอบคลุมระยะยาวไปจนถึงช่วงการปรากฏตัวของท่าน.<ref>ชะฮรฺอาชูบ, มุฮัมมหัด, มะนากิบ</ref>
# '''ยุคของการปรากฏตัวของอิมามท่านที่สิบสอง''' เริ่มตั้งแต่หารปรากฏตัวของท่านไปจนถึงการสิ้นสุดการปกครองของท่าน.<ref>มุฮัมมหัด อิบนิ อิบรอฮีม , กิตาบุ้ลฆีย์บะฮ์</ref>
# '''ยุคของริจอัต''' เริ่มตั้งแต่การกลับมาของเอาลิยาบางท่านจนวันสิ้นสุดของโลกดุนยานี้.<ref>บิฮารุนอันวาร, เล่มที่53</ref>

== รายชื่อผู้ดำรงค์ตำแหน่งสิบสองท่านในปีต่าง ๆ ==
# [[อะลี อิบน์ อะบี ฏอลิบ|อาลี อิบน์ อะบี ฏอลิบ]] ตั้งแต่ 632-661 ฮ.ศ.
# [[ฮะซัน อับมุจะตะบา]] ตั้งแต่ 661-670 ฮ.ศ.
# ฮุเซน อัชชะฮีด ตั้งแต่ 670-680 ฮ.ศ.
# อาลี ซัยนุลอาบิดีน ตั้งแต่ 680-712 ฮ.ศ.
# มุฮัมมัด อัลบากิร ตั้งแต่ 712-732 ฮ.ศ.
# ญะอฺฟัร อัศศอดิก ตั้งแต่ 732-765 ฮ.ศ.
# [[มูซา]] อัลกาซิม ตั้งแต่ 765-799 ฮ.ศ.
# อาลี อัรริฎอ ตั้งแต่ 799-817 ฮ.ศ.
# มุฮัมมัด อัตตะกีย์ ตั้งแต่ 817-835 ฮ.ศ.
# อาลี อันนะกี ตั้งแต่ 835-868 ฮ.ศ.
# อะซัน อัลอัสการี ตั้งแต่ 868-874 ฮ.ศ.
# ฮุจจะตุ้ล มะฮดีย์ ตั้งแต่ 874 ฮ.ศ.จนถึงปัจจุบัน

== หมายเหตุ ==
;* รูปแบบการเรียงลำดับข้างต้นเป็นไปตามความเชื่อของนิกายชีอะฮ์อิมามียะฮ์
;* ตามทัสนะของชีอะฮ์ อิมาม อาลี ดำรงตำแหน่งอิมามะฮ์ตั้งแต่การจากไปของท่านศาสดา (ศ) แต่ได้รับตำแหน่งผู้ปกครองประชาชาติมุสลิมภายหลังการเสียชีวิตของ อุษมาน คอลีฟะฮ์คนที่สาม
;* การดำรงตำแหน่งอิมามะฮ์จะเริ่มต้นหลังจากการเสียชีวิตของอิมามท่านก่อนทันที
;* อิมาม มะฮดีย์ อิมามท่านที่ สิบสอง ดำรวค์ตำแหน่งอิมามะฮ์ตั้งแต่การจากำปของอิมามฮะซัน อัสการี มาจนถึงปัจจุบัน .<ref>{{Cite web |url=http://rasekhoon.net/article/show/1357147/%D8%B3%DB%8C%D8%B1%D9%87-%D9%85%D8%B9%D8%B5%D9%88%D9%85%D8%A7%D9%86-%D8%AF%D8%B1-%D9%86%D9%81%D9%88%D8%B0-%D9%88-%DA%A9%D8%B4%D9%81-%D8%AA%D9%88%D8%B7%D8%A6%D9%87-%D9%87%D8%A7%DB%8C-%D8%AF%D8%B4%D9%85%D9%86%D8%A7%D9%86 |title=สำเนาที่เก็บถาวร |access-date=2018-02-09 |archive-date=2018-02-07 |archive-url=https://web.archive.org/web/20180207182822/http://rasekhoon.net/article/show/1357147/%D8%B3%DB%8C%D8%B1%D9%87-%D9%85%D8%B9%D8%B5%D9%88%D9%85%D8%A7%D9%86-%D8%AF%D8%B1-%D9%86%D9%81%D9%88%D8%B0-%D9%88-%DA%A9%D8%B4%D9%81-%D8%AA%D9%88%D8%B7%D8%A6%D9%87-%D9%87%D8%A7%DB%8C-%D8%AF%D8%B4%D9%85%D9%86%D8%A7%D9%86/ |url-status=dead }}</ref>

== อ้างอิง ==
* ฮะซันซฺอเดะฮ์ อามุลี, ฮะซัน. انسان کامل از دیدگاه نهج‌البلاغه.
* มุฎอฮะรี, มุรตะฏอ. [http://www.motahari.org/asaar/books.htm امامت و رهبری] {{Webarchive|url=https://web.archive.org/web/20060615060216/http://www.motahari.org/asaar/books.htm |date=2006-06-15 }}انتشارات صدرا, สำนักพิมพ์ศ็อดรอ.
* เคอร์บิน, ฮันรี่. Historie de la Philosophie Islamique. แปลฟาร์ซี: ญะวาด ตอบาตอบาอี, [[เตหะราน]], กะวีรสำนักพิมพ์อิหร่านศึกษา ภาคฝรั่งเศส.
<references />

== บรรณานุกรม ==
* [http://www.al-haqaeq.com/farsi/library/lib-sec.php?secid=1 کتابخانه امامت] {{Webarchive|url=https://web.archive.org/web/20180522083541/http://www.al-haqaeq.com/farsi/library/lib-sec.php?secid=1 |date=2018-05-22 }} سید علی حسینی میلانی
* [http://www. امامت.com/library/persian-book/imam-logy امام‌شناسی]، تالیف علامه‌آیت‌الله حاج‌سیّدمحمّدحسین حسینی‌طهرانی مجموعه‌ای است از بحث‌های تفسیری، فلسفی، روائی، تاریخی، اجتماعی دربارهٔ امامت و ولایت بطور کلّی.
* [http://www. امامت.com/library/persian-book/imam-logy امام‌شناسی]، تالیف علامه‌آیت‌الله حاج‌سیّدمحمّدحسین حسینی‌طهرانی مجموعه‌ای است از بحث‌های تفسیری، فلسفی، روائی، تاریخی، اجتماعی دربارهٔ امامت و ولایت بطور کلّی.
* [http://www. امامت.com/library/persian-book/hayat-ol-gholoob حیات القلوب جلد ۵: امام شناسی] تالیف علامه مجلسی (رحمه الله).
* [http://www. امامت.com/library/persian-book/hayat-ol-gholoob حیات القلوب جلد ۵: امام شناسی] تالیف علامه مجلسی (رحمه الله) .
* [http://www.al-shia.com/html/far/books/hadith/esmat/index.htm عصمت]، جعفر سبحانی
* [http://www.al-shia.com/html/far/books/hadith/esmat/index.htm عصمت] {{Webarchive|url=https://web.archive.org/web/20060506130549/http://www.al-shia.com/html/far/books/hadith/esmat/index.htm |date=2006-05-06 }}، جعفر سبحانی
* [http://www.al-shia.com/html/far/books/motahar/siryh_aem/fehrest.htm سیری در سیره ائمه اطهار]، مرتضیٰ مطهری
* [http://www.al-shia.com/html/far/books/motahar/siryh_aem/fehrest.htm سیری در سیره ائمه اطهار] {{Webarchive|url=https://web.archive.org/web/20070303152049/http://al-shia.com/html/far/books/motahar/siryh_aem/fehrest.htm |date=2007-03-03 }}، مرتضیٰ مطهری
* [http://www.al-shia.com/html/far/books/falsafe/eteghad/index.htm اعتقاد ما]، ناصر مکارم شیرازی
* [http://www.al-shia.com/html/far/books/falsafe/eteghad/index.htm اعتقاد ما] {{Webarchive|url=https://web.archive.org/web/20070929130502/http://www.al-shia.com/html/far/books/falsafe/eteghad/index.htm |date=2007-09-29 }}، ناصر مکارم شیرازی
* [http://www.toraath.com/index.php?name=Downloads&req=getit&lid=125 PDF کتاب المراجعات]، ترجمه سردار کابلی، در [http://www.toraath.com پایگاه‌اینترنتی تراث]
* [http://www.toraath.com/index.php?name=Downloads&req=getit&lid=125 PDF کتاب المراجعات]، ترجمه سردار کابلی، در [http://www.toraath.com پایگاه‌اینترنتی تراث]
* [http://www.saamentv.ir/fa/index.php?option=com_remository&Itemid=134&func=startdown&id=35 PDF کتاب المراجعات]، ترجمهٔ محمد جعفر امامی، در [http://www.saamentv.ir پایگاه‌اینترنتی شبکه ثامن]
* [http://www.saamentv.ir/fa/index.php?option=com_remository&Itemid=134&func=startdown&id=35 PDF کتاب المراجعات] {{Webarchive|url=https://web.archive.org/web/20100727050033/http://saamentv.ir/ |date=2010-07-27 }}، ترجمهٔ محمد جعفر امامی، در [http://www.saamentv.ir پایگاه‌اینترنتی شبکه ثامن] {{Webarchive|url=https://web.archive.org/web/20100727050033/http://saamentv.ir/ |date=2010-07-27 }}
* [http://www.aqaed.com/book/75 الامامةوالتبصرة من الحیرة] أبی الحسن علی بن الحسین بن بابویه القمی
* [http://www.aqaed.com/book/75 الامامةوالتبصرة من الحیرة] أبی الحسن علی بن الحسین بن بابویه القمی
* [http://www.aqaed.com/book/125 تصحیح إعتقادات الإمامیة] شیخ المفید
* [http://www.aqaed.com/book/125 تصحیح إعتقادات الإمامیة] شیخ المفید
* [http://www.aqaed.com/book/128 التعجب من أغلاط العامة فی مسألة الإمامة] الشیخ القاضی أبی الفتح محمد بن علی بن عثمان الکراجکی
* [http://www.aqaed.com/book/128 التعجب من أغلاط العامة فی مسألة الإمامة] الشیخ القاضی أبی الفتح محمد بن علی بن عثمان الکراجکی

== เชิงอรรถ ==
{{پانویس}}

== جستارهای وابسته ==
* [[ชีอะฮ์|Shia]] ชีอะฮ์ 
* [[อิหม่าม|Imam]] อิมาม
* مفترض الطاعه

== แหล่งอ้างอิง ==
* ฮะซันซฺอเดะฮ์ อามุลี ,ฮะซัน ؛ انسان کامل از دیدگاه نهج‌البلاغه
* มุฎอฮะรี، มุรตะฏอ؛ [http://www.motahari.org/asaar/books.htm امامت و رهبری]؛ انتشارات صدرا สำนักพิมพ์ ศ็อดรอ
* เคอร์บิน، ฮันรี่ ؛ Historie de la Philosophie Islamique؛ แปลฟารซี: จะวาด ตอบาตอบาอี ؛ [[เตหะราน]]: กะวีร، انجمن ایران‌شناسی فرانسه
ศอเฮียะฮ์บุคอรี,หัวข้อ ความประเสริฐของอลี อบนิ อบี ตอลิบ,เล่มที่2 ,หน้า200
[[หมวดหมู่:แม่แบบศาสนาอิสลาม]]
[[หมวดหมู่:แม่แบบศาสนาอิสลาม]]
[[หมวดหมู่:รัฐอิสลามแบ่งตามประเภท]]
<references />

รุ่นแก้ไขเมื่อ 03:29, 15 มิถุนายน 2567

อิมามะฮ์ (อาหรับ: إمامة) หรือ ตำแหน่งการเป็นผู้นำ ตัวแทนท่านศาสดา (ศ) ถือเป็นหนึ่งในหลักศรัทธาของอิสลามนิกายชีอะฮ์ และเนื่องจากความสำคัญยิ่งยวดของหลักศรัทธาข้อนี้ พวกเขาจึงมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า กลุ่มอิมามียะฮ์[1]

คำว่า อิมามะฮ์ ตามรากศัพท์ภาษาอาหรับ หมายถึง ผู้นำ และตามจริงแล้วทุกประชาชาติและกลุ่มชนไม่สามารถอยู่ได้โดยปราศจากผู้นำ

หลักศรัทธาชองนิกายชีอะฮ์ : เตาฮีด, นุบูวัต, มะอาด, อัดล์ และอิมามะฮ์

บรรดาชีอะฮ์จะอ้างอิงความเชื่อทั้งหมดของพวกเขาจากโองการในพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานและในเรื่องของอิมามะฮ์ก็เช่นเดียวกัน

อิมามะฮ์-ตำแหน่งผู้นำในคัมภีร์อัลกุรอาน

  • ในโองการที่24 ซูเราะห์ อัสสัจญ์ดะฮ์ ได้กล่าวไว้ว่า:

وَجَعَلْنَا مِنْهُمْ أَئِمَّةً يَهْدُونَ بِأَمْرِنَا لَمَّا صَبَرُوا وَكَانُوا بِآيَاتِنَا يُوقِنُونَ

 อัส-สัจญ์ดะฮฺ - 24

และเราได้จัดให้มีหัวหน้าจากพวกเขา เพื่อจะได้ชี้แนะแนวทางที่ถูกต้องตามคำบัญชาของเรา ในเมื่อพวกเขามีความอดทนและพวกเขาเชื่อมั่นต่ออายาตทั้งหลายของเรา

[2]

  • ในซูเราห์ อัลบะเกาะเราะฮ์ โองการที่124ก็ได้กล่าวไว้เช่านเดียวกันว่า:

وَإِذِ ابْتَلَىٰ إِبْرَاهِيمَ رَبُّهُ بِكَلِمَاتٍ فَأَتَمَّهُنَّ قَالَ إِنِّي جَاعِلُكَ لِلنَّاسِ إِمَامًا قَالَ وَمِن ذُرِّيَّتِي قَالَ لَا يَنَالُ عَهْدِي الظَّالِمِينَ อัลบะเกาะเราะฮ์ - 124 และจงรำลึกถึง ขณะที่พระเจ้าของอิบรอฮีมได้ทดสอบเขา ด้วยพระบัญชาบางประการ แล้วเขาก็ได้สนองตามพระบัญชานั้นโดยครบถ้วน พระองค์ตรัสว่า แท้จริงข้าจะให้เจ้าเป็นผู้นำมนุษย์ชาติ เขากล่าวว่า และจากลูกหลานของข้าพระองค์ด้วย พระองค์ตรัสว่า สัญญาของข้านั้นจะไม่ได้แก่บรรดาผู้อธรรม.

อิมามะฮ์ (ตำแหน่งผู้นำ) ในฮะดีษ

  • ในตำราฮะดีษของสายอะฮลิซซุนนะฮ์ ศอเฮียะฮ์บุคคอรีและศอเฮียะฮ์มุสลิม, มุสนัด ตอยาลีซี และ อะฮ์หมัด อิบนิ ฮันบัล, ซุนันติรมีซี และ อิบนิ มาญะฮ์ และตำราอ้างอิงฮะดีษอื่น ๆ ระบุไว้ว่าท่านศาสดา (ศ) ได้กล่าวกับอิมามอาลีว่า: เจ้าสำหรับข้าเปรียบเสมือนฮารูนสำหรับอิบรอฮีม แตกต่างกันตรงที่หลังจากฉันจะไม่มีนบีอีกแล้วเท่านั้น [3]

จำนวนของอิมาม

ชีอะฮ์อ้างอิงรายงานจากจาบิร อันศอรี และจากรายงานของท่านอื่น ๆ มีความเชื่อว่าอิมามทั้งหมดมีสิบสองท่านซึ่งถูกเลือกจากพระองค์อัลลอฮ์ (ซ.บ.) และได้รับการแต่งตั้งตั้งแต่ในยุคของศาสดามุฮัมมัด (ศ) นักวิชาการบางท่านอ้างอิงประเด็นการเป็นอิมามจาะฮะดีษษะกอลัยน์ ตัวอย่างเช่น ท่านมุสลิมบันทึกไว้ในตำราฮะดีษของเขาว่ารายงานจากท่านญาบิรบิน ษะมะเราะห์ ที่กล่าวว่าฉันได้ยินมาจากท่านศาสดา (ศ) ว่าท่านกล่าวว่า :

ศาสนานี้จะดำเนินสืบต่อไปจนกว่าจนกว่าอิมามทั้งสิบสองท่านจะขึ้นมาดำรงค์ตำแหน่งคอลีฟะฮ์, ซึ่งคอลีฟะฮ์เหล่านี้ล้วนมาจากเผ่ากุเรชทั้งสิ้น.

ในริวายัตอีกบทหนึ่ง ศาสดา (ศ) ได้กล่าวว่า : การงานของประชาชาติในยุคนี้จะราบรื่นเสมอจนกว่าคอลีฟะฮ์ทั้งสิบสองท่านนี้จะจากไป

รายชื่ออิมามทั้งสิบสองท่าน

ชีอะฮ์อ้างอิงรายงานจาก จาบิร อันศอรี และจากรายงานของท่านอื่น ๆ มีความเชื่อว่าอิมามทั้งหมดมีสิบสิงท่านซึ่งถูกเลือกจากพระองค์อัลลอฮ์ (ซ.บ.) และแต่งตั้งตั้งแต่ในยุคของท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ) นักวิชาการบางท่านอ้างอิงประเด็นการเป็นอิมามจาะฮะดีษษะกอลัยน์ ตัวอย่างเช่น ท่านมุสลิมบันทึกไว้ในตำราฮะดีษของเขาว่ารายงานจากท่านจาบิรบิน ษะมะเราะห์ ที่กล่าวว่าฉันได้ยินมาจากท่านศาสดา (ศ) ว่าท่านกล่าวว่า:

ศาสนานี้จะดำเนินสืบต่อไปจนกว่าจนกว่าอิมามทั้งสิบสองท่านจะขึ้นมาดำรงค์ตำแหน่งคอลีฟะฮ์, ซึ่งคอลีฟะฮ์เหล่านี้ล้วนมาจากเผ่ากุเรชทั้งสิ้น.[4]

ในริวายัตอีกบทหนึ่งทานศาสดา (ศ) ได้กล่าวว่า:การงาานของปราชาชาติในยุคนี้จะราบรื่นเสมอจนกว่าคอลีฟะฮ์ทั้งสิบสองท่านนี้จะจากไป[5]

รายชื่อมีดังต่อไปนี้:

อิมามญุวัยนีรายงานจากอับดุลลอฮ์ อิบนิอับบาส ว่าทานศาสดา (ศ) กล่าวว่า:

ฉันเป็นหัวหน้าของบรรดาอัมบิยา (ศาสดา) ทั้งหลายและอลี อิบนิ อบีตอลิบเป็นหัวหน้าของเอาศิยา (ตัวแทนศาสดา) ทั้งหลายและเอาศิยาเหล่านี้มีทั้งหมดสิบสองท่านคนแรกของพวกเขาคืออลี อิบนิ อบี ฎอลิบ และคนสุดท้ายของพวกเขาคือ มะฮ์ดี.

อิมามญุวัยนยังรายงานต่อจากสายรายงานเดิมอีกว่าฉันได้ยินจากศาสดา (ศ) ที่ท่านกล่าว่า:

ฉัน อลี และ ฮะซัน และบุตรอีกเก้าคนจากเชื้อสายของฮุเซน คือผู้บริสุทธิ์ และไร้มลทิน.
  • 1-อาลี อิบน์ อะบี ฏอลิบ บุตรของอะบูฏอลิบ ผู้เป็นลูกพี่ลูกน้องของนบีมุฮัมมัด นบีได้ชุบเลี้ยงมาตั้งแต่ยังเยาว์ เป็นผู้แรกที่ศรัทธาต่อศาสนาอิสลาม ภายหลังสมรสกับท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ ธิดานบีมุฮัมมัด
  • 2-ฮะซัน บุตรของอะลีย์ และฟาฏิมะหฺ
  • 3- ฮุเซน บุตรของอะลีย์ และฟาฏิมะหฺ น้องชายของฮะซัน
  • 4-อาลี ซัยนุลอาบิดีน บุตรอิมามที่3
  • 5- มุฮัมมัด อัลบากิร บุตรอิมามที่ 4
  • 6-ญะอฺฟัร อัศศอดิก บุตรอิมามที่ 5
  • 7-มูซา อัลกาซิม บุตรอิมามที่ 6
  • 8-อาลี อัรริฎอ บุตรอิมามที่ 7
  • 9- อัตตะกีย์ บุตรอิมามที่ 8
  • 10-อัลฮาดี บุตรอิมามที่ 9
  • 11- ฮะซัน อัลอัสกะรีย์ บุตรอิมามที่ 10
  • 12-มุฮัมมัด อัลมะฮ์ดี บุตรอิมามที่ 11

คุณสมบัติต่าง ๆ

  1. ความบริสุทธิ์ : ปราศจากความผิดบาปของอิมามทั้งสิบสองท่านรวมถึงท่านศาสดาและท่านหญิงฟาติมะฮ์ทั้งหมดเป็นสิบสี่ท่าน, จากนัยยะและการอธิบายของโองการตัฎฮีรหมายถึงโองการที่33 ซูเราะห์ อะห์ซฺาบ บ่งชี้ว่าพวกท่านเหล่านี้ปราศจากความผิดบาปทุกประเภทอย่างไม่มีเงื่อนไขใด ๆ ไม่ว่าจะเป็นบาปเล็กหรือบาปใหญ่ก็ตามเพราะการเป็นผู้นำและแบบฉบับนั้นจะต้องเป็นผู้ที่ปราศจากข้อผิดพลาดทุกประการจึงจะเป็นข้อพิสูจน์สำหรับผู้อื่นได้.
  2. ความยุติธรรม :
  3. ความรู้ :
  4. การเป็นข้อพิสูจน์ :
  5. การเป็นผู้นำ :

หน้าที่ความรับผิดชอบ

1- การเป็นศูนย์กลางทางด้านศาสนา

ในมุมมองของชีอะฮ์ หลังจากการบัญญัติทางศาสนาเสร็จสิ้นแล้วโดยท่านศาสดา (ศ) อิมามมะอฺศูม (อ) จะเป็นผู้ที่ถ่ายทอดและอรรฐาธิบายวิชาการทางศาสนาในเรื่องปลีกย่อยต่าง ๆ ที่ต้องได้มาจากผู้ที่ปราศจากการบิดเบือนหรือคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริงแก่ประชาชน

2- การเป็นผู้นำ-ผู้ปกครองของสังคม :

ความเป็นผู้นำคำนี้ถือเป็นคำที่เข้าใจเหมือนกันในหมู่มุสลิมทั้งชีอะฮ์และอะฮ์ลิซซุนนีะฮ์ หมายถึงการยอมรับว่าสังคมจะต้องมีบุคคลหนึ่งที่มาเป็นผู้นำทางสังคมโยที่ฝ่ายอะฮ์ลิซซุนนะฮ์จะเรียกโยใช้คำว่า (คอลีฟะฮ์) โดยที่พวกเขายอมรับว่าให้มีตำแหน่งนี้จากากรเลือกโดยตัวแทนของสังคมหมายถึงเหล่าสาวกในยุคนั้น (ชูรอ) วึ่งณตอนนั้นถือเป็นประเด็นถกเถียงและขัดแย้งกันอย่างมากในหมู่สาวกของท่าศาสดา (ศ) ถึงขั้นที่มีสาวกบางท่านยกดาบฟาดฟัดกันเพื่อได้มาซึ่งตำแหน่งนี้, แต่ในมุมมองของชีอะฮ์ บุคคลดังกล่าวจะต้องมีคุณสมบัติต่าง ๆ ที่เหมาะสมทั้งมนด้านของความรู้ความเข้าใจอย่างถ่องแท้ต่อศาสนา, ต้องเป็นผู้บริสุทธิ์, เป็นผู้ที่มีความยุติธรรมและมีหลักฐานยืยยันการเป็นตัวแทนของเขาเพื่อที่จะสามารถวินิจฉัยและชี้นำอิสลามได้อย่างถูกต้องและตามมาซึ่งหน้าที่ของประชาชนในการยอมรับและปฏิบัติตามลำดับต่อไป

ตามที่โองการ 59 ซูเราะห์นิซาอ์ :

บรรดาผู้มีศรัทธา! จงเชื่อฟังอัลลอฮฺ และเชื่อฟังศาสนทูต และผู้ปกครองในหมู่พวกเธอเถิด แต่ถ้าพวกเธอขัดแย้งกันในสิ่งใด ก็จงนำสิ่งนั่นกลับไปยังอัลลอฮฺและศาสนทูต หากพวกเธอศรัทธาต่ออัลลอฮฺและวันปรโลก นั่นแหละเป็นสิ่งที่ดียิ่งและเป็นการกลับไปที่สวยงามยิ่ง

และโองการที่55ซูเราะห์มาอิดะฮ์:

อันที่จริง มิตรของพวกเธอนั้นคืออัลลอฮฺ และศาสนทูตของพระองค์และบรรดาผู้มีศรัทธาที่ดำรงไว้ซึ่งการนมาซ และชำระซะกาต และขณะเดียวกันพวกเขาก็เป็นผู้ก้มรุกูอฺ

3- การเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณ:

หมายถึงการที่พวกท่านสามารให้การอนุเคราะห์และช่วยเหลือผู้อื่นได้เนื่องจากฐานันดรอันสูงส่งที่พวกท่านมีณเอกองค์อัลลอฮ์ (ซ.บ.)

การดำรงตำแหน่งในยุคสมัยต่าง ๆ ของพวกท่าน :

ช่วงเริ่มต้นของตำแหน่งอิมามะฮ์จนยุคของการเร้นกายของอิมามท่านที่สิบสองมีสี่ยุคสมัยดังต่อไปนี้:

  1. ยุคของมีอยู่ของอิมาม เริ่มตั้งแต่สมัยของอิมามอลี (อ) จนถึงการเร้นกายของอิมามมะฮ์ดี (อ) [6]
  2. ยุคของการเร้นกาย เริ่มตั้งแต่การเร้นกายระยะสั้นของอิมามมะฮ์ดีย์ (อ) ครอบคลุมระยะยาวไปจนถึงช่วงการปรากฏตัวของท่าน.[7]
  3. ยุคของการปรากฏตัวของอิมามท่านที่สิบสอง เริ่มตั้งแต่หารปรากฏตัวของท่านไปจนถึงการสิ้นสุดการปกครองของท่าน.[8]
  4. ยุคของริจอัต เริ่มตั้งแต่การกลับมาของเอาลิยาบางท่านจนวันสิ้นสุดของโลกดุนยานี้.[9]

รายชื่อผู้ดำรงค์ตำแหน่งสิบสองท่านในปีต่าง ๆ

  1. อาลี อิบน์ อะบี ฏอลิบ ตั้งแต่ 632-661 ฮ.ศ.
  2. ฮะซัน อับมุจะตะบา ตั้งแต่ 661-670 ฮ.ศ.
  3. ฮุเซน อัชชะฮีด ตั้งแต่ 670-680 ฮ.ศ.
  4. อาลี ซัยนุลอาบิดีน ตั้งแต่ 680-712 ฮ.ศ.
  5. มุฮัมมัด อัลบากิร ตั้งแต่ 712-732 ฮ.ศ.
  6. ญะอฺฟัร อัศศอดิก ตั้งแต่ 732-765 ฮ.ศ.
  7. มูซา อัลกาซิม ตั้งแต่ 765-799 ฮ.ศ.
  8. อาลี อัรริฎอ ตั้งแต่ 799-817 ฮ.ศ.
  9. มุฮัมมัด อัตตะกีย์ ตั้งแต่ 817-835 ฮ.ศ.
  10. อาลี อันนะกี ตั้งแต่ 835-868 ฮ.ศ.
  11. อะซัน อัลอัสการี ตั้งแต่ 868-874 ฮ.ศ.
  12. ฮุจจะตุ้ล มะฮดีย์ ตั้งแต่ 874 ฮ.ศ.จนถึงปัจจุบัน

หมายเหตุ

  • รูปแบบการเรียงลำดับข้างต้นเป็นไปตามความเชื่อของนิกายชีอะฮ์อิมามียะฮ์
  • ตามทัสนะของชีอะฮ์ อิมาม อาลี ดำรงตำแหน่งอิมามะฮ์ตั้งแต่การจากไปของท่านศาสดา (ศ) แต่ได้รับตำแหน่งผู้ปกครองประชาชาติมุสลิมภายหลังการเสียชีวิตของ อุษมาน คอลีฟะฮ์คนที่สาม
  • การดำรงตำแหน่งอิมามะฮ์จะเริ่มต้นหลังจากการเสียชีวิตของอิมามท่านก่อนทันที
  • อิมาม มะฮดีย์ อิมามท่านที่ สิบสอง ดำรวค์ตำแหน่งอิมามะฮ์ตั้งแต่การจากำปของอิมามฮะซัน อัสการี มาจนถึงปัจจุบัน .[10]

อ้างอิง

  • ฮะซันซฺอเดะฮ์ อามุลี, ฮะซัน. انسان کامل از دیدگاه نهج‌البلاغه.
  • มุฎอฮะรี, มุรตะฏอ. امامت و رهبری เก็บถาวร 2006-06-15 ที่ เวย์แบ็กแมชชีนانتشارات صدرا, สำนักพิมพ์ศ็อดรอ.
  • เคอร์บิน, ฮันรี่. Historie de la Philosophie Islamique. แปลฟาร์ซี: ญะวาด ตอบาตอบาอี, เตหะราน, กะวีรสำนักพิมพ์อิหร่านศึกษา ภาคฝรั่งเศส.
  1. ซัยยิดมุรตะฏอ. อำนาจการปกครองของอิมามอลีในโองการและฮะดีษ. สำนักพิมพ์มุนีร, พิมพ์ครั้งที่ 7.
  2. มุฮ์ซิน , กิรออัตตี ตัฟซีร นูร , เล่ม7, หน้า318.
  3. ศอเฮี้ยะฮ์บุคอรี , หัวข้อ ความประเสริฐของอลี อิบนิ อบี ตอลิบ , เล่ม2/200
  4. มุสลิม, ศอเฮียะฮ์มุสลิม, เล่ม3, 1453, ฮะดีษบทที่1821
  5. มุนตะคอบ กันซุลอุมมาล, เล่ม5, 321
  6. มุฏอฮรี , มุรตะฏอ, อิมามะฮ์ วะ ระฮ์บะรี
  7. ชะฮรฺอาชูบ, มุฮัมมหัด, มะนากิบ
  8. มุฮัมมหัด อิบนิ อิบรอฮีม , กิตาบุ้ลฆีย์บะฮ์
  9. บิฮารุนอันวาร, เล่มที่53
  10. "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-02-07. สืบค้นเมื่อ 2018-02-09.

บรรณานุกรม